“ภาวะหัวใจล้มเหลว” เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่เกิดจากการทำงานของหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย
“ภาวะหัวใจล้มเหลว” เป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่เกิดจากการทำงานของหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย และรับเลือดกลับเข้าหัวใจได้ตามปกติ หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งความผิดปกติของโรคเยื่อหุ้มหัวใจ, กล้ามเนื้อหัวใจ, ลิ้นหัวใจ, หลอดเลือดหัวใจตีบ, ความดันโลหิตสูง, ลิ้นหัวใจรูมาติก, กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และการติดเชื้อไวรัสโลหิตจางขั้นรุนแรง สิ่งเหล่านี้ส่งผลก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้โดยตรง ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่ผู้สูงอายุที่ต้องพึงระวังเท่านั้น วัยทำงานที่คิดว่าร่างกายแข็งแรงและมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน สำหรับวันนี้เราจะมาบอกถึง 4 สัญญาณเตือนภาวะหัวใจล้มเหลวว่ามีอะไรบ้าง หากพร้อมแล้วมาดูกัน
รู้สึกหายใจได้ไม่เต็มที่และรู้สึกอึดอัด
หากรู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าแต่ก่อนและมีอาการหอบอยู่บ่อยครั้ง เมื่อทำกิจวัตรประจำวันที่ไม่ได้หนักจนเกินไป อย่างเช่นการเดิน, ขึ้นบันได, ยกของ และพบว่ารู้สึกหายใจได้ไม่เต็มที่รู้สึกอึดอัด ให้ตระหนักไว้เลยคุณอาจจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้ในอนาคต
อ่อนเพลียและมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
เมื่อออกซิเจนไม่สามารถไปเลี้ยงร่างกายได้เต็มที่ หรือน้อยลงกว่าที่เคย ส่งผลให้กล้ามเนื้อและระบบทำงานภายในที่ต้องการออกซิเจนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งตามมาด้วยอาการอ่อนเพลียและเหนื่อยกว่าปกติ แถมยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
เบื่ออาหารและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว
เมื่อร่างกายคั่งของเหลวเอาไว้ในทางเดินอาหาร ย่อมส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ และทำให้เกิดความรู้สึกเบื่ออาหาร หรือทุกครั้งที่ได้รับประทานอาหารจะรู้สึกไม่สบายตัว หากภาวะหัวใจล้มเหลวดังกล่าวเกิดทรุดตัวลง อาจมีผลทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ภายในไม่กี่วันอีกด้วย
มีอาการเวียนศีรษะหน้ามืดอยู่บ่อยครั้ง
หากเกิดอาการเวียนศีรษะหน้ามืดอยู่บ่อยครั้งจนผิดสังเกต นั่นคืออีกหนึ่งสัญญาณเตือนให้คุณทราบแล้วว่า ออกซิเจนในร่างกายไม่สามารถหมุนเวียนไปยังส่วนต่างๆ ภายในได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวที่จะตามมาได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับหัวใจต่างๆ อีกด้วย
4 สัญญาณเตือนเบื้องต้นที่ได้กล่าวไปนั้น เป็นเพียงอาการที่บ่งบอกว่าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจตกอยู่ในภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งหากพบอาการใดอาการหนึ่งอย่าเพิ่งตื่นตระหนกและวิตกกังวลจนเกินไป แนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดำเนินการวินิจฉัยตามขั้นตอน และหันมาดูแลตัวเองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น แค่นี้ก็สามารถห่างไกลได้แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ผู้สูงอายุเท่านั้น วัยกลางคนหนุ่มๆ หรือสาวๆ ก็ไม่ควรละเลยเริ่มดูแลตัวเองและตรวจเช็กสุขภาพอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เนิ่นๆ