ความสำเร็จของผู้ออกแบบระดับโลก Tom Wright ที่บอกเล่าผ่านรูปแบบอาคารที่สะท้อนบริบทของเมือง เจ้าของผลงานการออกแบบโรงแรม Burj Al Arab หนึ่งในไอคอนนิคของโลก
ในโลกปัจจุบันที่การดีไซน์และนวัตกรรมดูเหมือนจะกลมกลืนอยู่ในทุกสิ่งในชีวิตประจำวัน รวมไปจนถึงการออกแบบอาคาร ที่นอกจากจะต้องคำนึงถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้แล้ว รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยสวยงามในด้านของงานดีไซน์ให้มีลักษณะโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
ถ้าจะต้องยกตัวอย่างอาคารอันเป็นไอคอนนิคของโลกสักหลังหนึ่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นผลงานทางสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นระดับโลกให้เป็นรูปธรรมและเข้าใจง่ายขึ้น ก็คงหนีไม่พ้น อาคารูปทรงเรือใบอาหรับ อย่าง โรงแรม Burj Al Arab อันกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองดูไบไปเรียบร้อยแล้ว แลนด์มาร์กที่ใครๆ ต่างก็อยากจะไปเช็คอินสักครั้งหากมีโอกาสได้ไปเยือนประเทศดูไบ อาคารที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่ไม่ใช่เป็นเพียงของผู้ที่เป็นเจ้าของอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นความสำเร็จระดับประเทศของชาวเมืองดูไบ ที่ช่วยส่งเสริมให้เมืองนั้นกลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกอีกด้วย
ทอม ไรท์ ผู้ออกแบบระดับโลกจาก บริษัท WKK Architects เจ้าของผลงานการออกแบบโรงแรม Burj Al Arab อาคารที่เป็นไอคอนนิกแห่งหนึ่งของโลกที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศดูไบ ด้วยแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกของโลกที่ ทอม ไรท์ ได้กล่าวไว้ในฐานะสถาปนิกที่มีชื่อเสียง คือ “แนวคิดในการทำงานของผม ผมคิดว่าถ้าอาคารๆ หนึ่งสามารถทำให้ผู้คนยิ้มได้ หรือทำให้คนมองเห็นแล้วรู้สึกถึงวันดีๆ นั่นคือความสำเร็จของเรา โดยการออกแบบนั้นจะต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะหรือบริบทของแต่ละเมือง ซึ่งจะสะท้อนออกมาในรูปแบบการดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไป”
เมื่อเอ่ยถึงความสำเร็จแล้ว สำหรับ ทอม ไรท์ ผู้ออกแบบระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย และได้รับการยอมรับในระดับโลกแล้ว แต่ ทอม ไรท์ กลับมองว่า เค้าตั้งใจจะออกแบบอาคารให้ดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆ โดยเมื่อถามว่าผลงานชิ้นไหนคือผลงานที่ภูมิใจที่สุด ทอม ไรท์ ตอบว่า “ผมมักจะโดนถามบ่อยๆว่า ผลงานอะไรที่ผมรู้สึกภูมิใจที่สุด ผมคิดว่า ผลงานชิ้นถัดไปจะกลายเป็นผลงานที่ผมภูมิใจที่สุด เปรียบเหมือนกับศิลปิน พอวาดงานชิ้นหนึ่งเสร็จแล้ว ก็ต้องทำผลงานชิ้นต่อไปให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ”
ซึ่งเร็วๆ นี้เราในนาม WKK กำลังมีผลงานที่ท้าทายอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือการได้เป็น Design Consultant ให้กับโครงการไอวี่ สุขุมวิท 18 ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ WKK ร่วมงานด้วย โดยโครงการนี้มีความน่าสนใจมากทั้งในเรื่องคอนเซ็ปต์และการออกแบบ โดยทั่วไปขนาดห้องที่เราเคยทำมาแล้วทั่วโลกจะเริ่มต้นประมาณ 120 ตร.ม.แต่ด้วยพื้นที่ในกรุงเทพมหานครมีขนาดพื้นที่จำกัด ถือเป็นความท้าทายในด้านการออกแบบของเราเป็นอย่างมาก และเราก็หวังว่าโครงการไอวี่ สุขุมวิท 18 จะเป็นไอคอนนิคแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครที่สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านงานดีไซน์สถาปัตยกรรมที่จะต้องสะท้อนความสำเร็จของผู้ที่อยู่อาศัย ฟังก์ชั่นและพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบันเช่นกัน
ทอม ไรท์ กล่าวต่อว่า เทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยในอนาคต 5-10 ปี ว่าคนส่วนใหญ่จะนิยมใช้ชีวิตในเมืองมากขึ้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหารถติด ดังนั้นที่อยู่อาศัยที่จะได้รับความนิยมมากขึ้น คือ คอนโดมิเนียมใจกลางเมือง และที่สำคัญการออกแบบอาคารที่อยู่อาศัย จะต้องมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย มีความเงียบสงบ และที่สำคัญต้องมีพื้นที่สีเขียว เพื่อการผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ เทรนด์ อยู่อาศัยในอนาคตจะเน้นการนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาใช้ร่วมด้วย ซึ่งเทคโนโลยีเองจะมีราคาถูกลงจนพอที่จะสามารถนำเทคโนโลยีนั้นมาใช้ให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
ด้วยแนวคิดในการทำงานที่มุ่งมั่น เลยไม่แปลกใจกับความสำเร็จของดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง ทอม ไรท์ ที่ทำให้เขาโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเขาพร้อมแล้วที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับประเทศไทย ภายใต้โปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ “ไอวี่ สุขุมวิท 18 ” ของผู้นำอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในวงการอย่าง “พฤกษา” ที่ทุกคนต้องจับตามอง...!!!
สนใจลงทะเบียนเพื่อสะท้อนสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของคุณ กับ Luxury Condominium ไอวี่ สุขุมวิท 18 ที่ http://bit.ly/2JHd1LP
