หญิงสาวรายหนึ่งแชร์เรื่องรักสุดช้ำว่าถูกแฟนหนุ่มนอกใจและขอเลิกหลังเธอบริจาคไตของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตเขาได้ไม่ถึงปี
คอลลีน เล สาววัย 30 ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐแชร์เรื่องราวความรักของเธอเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วผ่านคลิปใน TikTok โดยเริ่มคลิปแรกเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว
คอลลีนเล่าว่า แฟนหนุ่มของเธอบอกว่าเขาเป็นโรคไตมาตั้งแต่อายุ 17 และต้องฟอกเลือดมาตลอดนับตั้งแต่นั้น เนื่องจากไตทำงานได้ไม่ถึง 5%
ตอนนั้นเธอคิดอย่างเดียวว่าไม่ต้องการให้เขาตายจึงตัดสินใจจะเสียสละไตข้างหนึ่งของตัวเองให้แฟนหนุ่ม คอลลีนเดินหน้าขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ตรวจว่าไตของทั้งคู่จะเข้ากันได้หรือไม่ เมื่อผลออกมาว่าได้ ทั้งคู่จึงเข้ารับการผ่าตัดและฟื้นตัวกลับมาได้เป็นปกติ
คนทั่วไปอาจจะคิดว่าแฟนหนุ่มคงจะซาบซึ้งในความเสียสละของแฟนสาว แต่สำหรับหนุ่มรายนี้มันห่างไกลจากคำนั้นมาก
หลังการผ่าตัดผ่านไปเพียง 7 เดือน คอลลีนได้รับข้อความจากแฟนหนุ่มว่าเขาจะไปปาร์ตี้สละโสดกับเพื่อนๆ ที่ลาสเวกัสในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเธอก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะแฟนหนุ่มเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัดคงไม่มีเรื่องนอกใจ ส่วนเธอก็มุ่งมั่นอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบตามปกติ
แต่แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อแฟนหนุ่มกลับมาแล้วสารภาพว่าเขานอกใจเธอตอนไปลาสเวกัสและขอให้เธอยกโทษให้
ทั้งคู่ทะเลาะกันแต่สุดท้ายคอลลีนยอมยกโทษและให้โอกาสแฟนหนุ่มอีกครั้ง ทว่าในที่สุดอีก 3 เดือนต่อมาแฟนหนุ่มก็ขอเลิกราผ่านทางโทรศัพท์พร้อมด้วยคำพูดทำร้ายจิตใจว่า “ถ้าเราเกิดมาคู่กันจริงๆ สุดท้ายพระเจ้าจะพาเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง” และทิ้งท้ายด้วยคำพูดเจ็บแสบว่า “คุณแค่บริจาคไตเพื่อให้คุณดูดีเท่านั้น” ทั้งยังบล็อคการติดต่อทุกช่องทางจากคอลลีน
นอกจากแฟนหนุ่มจะทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแล้ว เพื่อนของเขาคนหนึ่งยังส่งข้อความมาในวันปาร์ตี้ฉลองเรียนจบของคอลลีนเพื่อต่อว่าเธอที่นำเรื่องหลังการผ่าตัดไตมาเปิดเผยให้ทุกคนรับรู้ว่า “เพื่อนคนหนึ่งของแฟนเก่าคุณ และคำแนะนำนะ ไม่ใช่ทุกคนจะอยากรู้หรอกนะว่าคุณให้ไตนั่นกับเขาแล้วพวกคุณก็เลิกกัน ดีใจด้วยนะที่เรียนจบพร้อมกับความพิการ”
หลังจากเรื่องราวนี้กลายเป็นไวรัลก็มีชาว TikTok เข้ามาให้กำลังใจคอลลีนมากมาย เช่น “เขาไม่รู้เหรอว่าการบริจาคไตมันซีเรียสแค่ไหน คุณเสียสละชีวิตเพื่อใครบางคน จิตใจคุณช่างงดงามเหลือเกิน”, “อย่ากังวลไปเลยเธอ เขาไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเธอ และเขาต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิตนั่นแหละ” หรือ “เขาไม่คู่ควรกับคุณและของขวัญที่คุณมอบให้”
Photo: tiktok/@colleeeniie