Page 17 - M2F - 24 เมษายน พ.ศ. 2561
P. 17
WORK & LIFE 17
วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2561
เฮนเรียตตามอร์ริสัน
เหตุเกิดเพราะความรักน้องหมา
ชื่อได้เลยว่าคนรักสุนัขทุกคนยินดีควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อสิ่งของต่างๆ
เมาปรนเปรอสัตว์เลี้ยงของตัวเอง รวมไปถึงการสรรหาอาหารคุณภาพ
BUSINESS เยี่ยมมาบำารุงสุขภาพน้องหมาให้ได้อยู่กับเรานานๆ เฮนเรียตตา มอร์ริสัน
ID L เข้าใจเป็นอย่างดี เพราะเธอเองก็มีสุนัขตัวโปรดเหมือนกัน
ตอนที่เจ้าลิลี่ สุนัขพันธุ์บอร์เดอร์เทอร์เรียสุดรักของเธอป่วยและไม่ยอม
กินอาหารปกติ เธอพยายามทำาทุกวิธีที่ใครๆ บอกว่าได้ผล แต่ก็ยังทำาให้
เจ้าลิลี่กลับมากินอาหารไม่ได้ จนในที่สุด มอร์ริสัน ลงมือปรุงอาหารมื้อพิเศษ
ด้วยเนื้อแกะ ถั่วเลนทิล และผักต่างๆ ไม่ต่างจากอาหารคน เมนูนี้ทำาให้ลิลี่ เปียกและแห้ง รวมถึงอาหารเช้าสำาหรับสุนัขที่ มอร์ริสัน เคลมว่า
กลับมากินอาหารอีกครั้ง เป็นเจ้าแรกในท้องตลาด โดยเริ่มขายตามคลินิกสัตวแพทย์ ร้านค้า
นอกจากนี้ ยังทำาให้ มอร์ริสัน คิดขึ้นมาว่า “ทำาไมอาหารสุนัขทั่วไปถึง ปลีกรายย่อย และเว็บไซต์ ก่อนจะขยายไปยังห้างใหญ่ในอีก 5 ปี
ไม่มีกลิ่นหอมกรุ่นและใช้วัตถุดิบแบบเดียวกับอาหารคนบ้างนะ” ต่อมา
เจ้านายของลิลี่ไม่ได้คิดเปล่า เธอยังกำาหนดเป้าหมายที่ชัดเจนให้ตัวเอง มอร์ริสัน เผยว่า การเข้าห้างใหญ่ๆ สั่นคลอนความมั่นใจของเธอ
ว่า ต้องผลิตอาหารสุนัขแบบเดียวกับที่เธอทำาให้ลิลี่ให้ได้ มอร์ริสัน ยุติการ มาก เนื่องจากสินค้าของเธอหนึ่งกระป๋องราคาเท่ากับสินค้าของผู้
เรียนการออกแบบสวนซึ่งเดินทางมาถึงช่วงใกล้จบการศึกษาทันที และนำา ผลิตเจ้าใหญ่ 1 แพ็ก เธอกังวลว่าลูกค้าจะไม่เข้าใจความแตกต่าง
บ้านไปจำานองเพื่อทำาให้ฝันของตัวเองเป็นรูปเป็นร่าง ด้วยความรู้สึกในตอน ระหว่างสินค้า Lily’s Kitchen และแบรนด์ทั่วไป แต่ปรากฏว่าผู้ผลิต
นั้นว่าจะต้องตั้งบริษัทให้เร็วที่สุด เพราะบรรดาคนรักสุนัขเช่นเธอคงไม่อยาก เจ้าใหญ่ต้องเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับ Lily’s Kitchen ที่ถือเป็น
ให้สุนัขกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ แบรนด์ขนาดเล็ก
เมื่อนำาสูตรอาหารซึ่งมีส่วนประกอบต่างจากอาหารสุนัขทั่วไป ไปนำาเสนอ ทริชนา ชาห์ นักวิเคราะห์ด้านการตลาด มองว่า ยุคนี้เจ้าของสัตว์
ที่โรงงานผลิต มอร์ริสัน กลับได้รับเสียงหัวเราะกลับมา เพราะผู้ผลิตคิดว่า เลี้ยงมักจะมองหาอาหารสัตว์ที่คุณภาพดีไม่ต่างจากที่พวกเขาเลือก
เธอเพี้ยน แต่เจ้าตัวก็สู้ต่อจนในที่สุดก็ได้โรงงานที่ยอมผลิตอาหารตามสูตร อาหารสำาหรับตัวเอง ซึ่งส่งผลดีกับแบรนด์สินค้าพรีเมี่ยมรายเล็กที่มี
ของเธอซึ่งมีเนื้อสด ผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบหลัก โดยตั้งชื่อตามสุนัข ภาพลักษณ์เป็นสินค้าเพื่อสุขภาพและใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ
ตัวโปรดว่า Lily’s Kitchen (ลิลี่ส์ คิตเช่น) ปัจจุบัน Lily’s Kitchen มียอดขายต่อปีราว 40 ล้านปอนด์ หรือ
Lily’s Kitchen ประเดิมด้วยสินค้าเริ่มแรก 7 ชนิด จนถึง ราว 1,760 ล้านบาท รับผิดชอบพนักงาน 67 คน นับว่ามาไกลมาก
ปัจจุบันมีอาหารสุนัขและแมวทั้งหมด 90 ชนิดทั้งแบบ จากจุดเริ่มต้นในห้องครัวของ มอร์ริสัน กลางกรุงลอนดอนของ
อังกฤษด้วยคนงานเพียง 1 คน แต่เธอก็ยอมรับว่าในช่วงสองสาม
ปีแรกนั้นสาหัสพอสมควร เพราะเธอไม่มีทางรู้เลยว่า Lily’s
Kitchen จะสำาเร็จหรือไม่ “นี่คือเหตุผลว่าทำาไมเราต้องมี
passion เป็นแรงผลักดัน และต้องกล้าเสี่ยงลงมือทำาใน
สิ่งที่เราไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย”
ภาพ : Lily’s Kitchen