Page 23 - M2F - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
P. 23

SPORT 23
        วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561














                                                        นัดชิงยิงอุตลุด








              กฟุตบอลโลก 2018 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามลุซนิกิ    ตราไก่ดับโครแอต4-2
           ศึสเตเดี้ยม กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อคืนที่ผ่านมา
           “ตราไก่” ฝรั่งเศส ลงสนามพบกับ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย
           อิวาน เปริซิช อิวาน ราคิติช มาริโอ มานด์ซูคิช และลูก้า   ครอง  แชมป์โลก2018
           โดยเกมนี้ต่างฝ่ายต่างจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มที่
           ฝรั่งเศสนำามาโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พอล ป็อกบา คิลิยัน
           เอ็มบาปเป้ และอองตวน กริซมันน์ ขณะที่โครเอเชียมี

           โมดริช เป็นตัวทีเด็ด
              ช่วงต้นเกมเป็นโครเอเชียที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้
           มากกว่า แต่กลายเป็นฝรั่งเศสที่ได้ประตูขึ้นนำาก่อนในนาที
           ที่ 18 จากจังหวะที่กริซมันน์เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ
           มานด์ซูคิชพยายามขึ้นโหม่งสกัด แต่โหม่งโดนไม่ดี ทำาให้
           บอลแฉลบเข้าประตูตัวเองไป แข้งตราไก่ออกนำา 1-0
              แต่ถัดมานาที 28 โครเอเชียตามตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อ
           เปริซิชได้บอลบริเวณเส้นเขตโทษ ก่อนแตะบอลหลบผู้เล่น
           ฝรั่งเศสหนึ่งจังหวะ แล้วซัดด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบตาข่าย
           เข้าไปอย่างเด็ดขาด
              อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสมาได้ประตูขึ้นนำาอีกครั้ง เมื่อ   ต่อมานาที 69 โครเอเชียไล่มาเป็น 2-4 เมื่อ อูโก้
           เปริซิชทำาแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เนสเตอร์ พิตาน่า   โยริส ผู้รักษาประตูฝรั่งเศสพยายามแตะบอลหลบ
           จากอาร์เจนตินา ไปดูภาพช้าจากวิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์)   มานด์ซูคิชหน้าปากประตูของตัวเอง แต่โดนมานด์ซูคิช
           ก่อนจะเป่าเป็นจุดโทษให้ทีมตราไก่ และเป็นกริซมันน์รับ  ดักบอลไว้ได้ และยิงเข้าไปอย่างง่ายๆ
           หน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดในนาทีที่ 38 ทำาให้ฝรั่งเศสนำา   ช่วงเวลาที่เหลือ โครเอเชียพยายามเปิดเกมบุกหวัง
           2-1 ในครึ่งเวลาแรก                            ทวงประตูคืน แต่ก็ยิงเพิ่มไม่ได้ กระทั่งครบ 90 นาที
              กลับมาลงสนามครึ่งหลัง ฝรั่งเศสยิงนำาห่างเป็น 3-1 ใน  ฝรั่งเศสคว้าชัยเหนือโครเอเชีย 4-2 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก
           นาทีที่ 59 เมื่อป๊อกบาได้จังหวะสับไกหน้ากรอบเขตโทษ   2018 ไปครอง และเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของทีมตราไก่
           บอลไปติดบล็อกกองหลังโครเอเชีย แต่บอลยังมาเข้าทาง  ต่อจากสมัยแรกเมื่อปี 1998 นอกจากนี้ ดิดิเยร์ เดส์ชอง
           ป็อกบาได้ซัดอีกครั้งตุงตาข่าย และหลังจากนั้นอีกเพียง 6   ส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ยังเป็นคนที่ 3 ที่สามารถคว้าแชมป์
           นาที ฝรั่งเศสหนีออกไปเป็น 4-1 จากลูกยิงไกลนอกเขต  โลกได้ทั้งในฐานะนักเตะและในฐานะผู้จัดการทีม ต่อจาก
           โทษของเอ็มบาปเป้                              มาริโอ ซากัลโล (บราซิล) และฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์
                                                         (เยอรมนี)
                                                            ขณะที่เกมนัดชิงอันดับ 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ก.ค.
                                                         “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ต้อนชนะ “สิงโตคำาราม”
                                                         อังกฤษ 2-0 จากประตูของ โธมัส มูนิเยร์ นาทีที่ 4 และเอเดน
                                                         อาซาร์ นาที 82 ทำาให้ลูกทีมของ กุนซือโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ
                                                         จบด้วยอันดับ 3 ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ
                                                         เบลเยียมในศึกลูกหนังรายการนี้
                                                            ด้านทีมชาติอังกฤษจบอันดับ 4 ขณะที่ แฮร์รี่ เคน หัวหอก
                                                         กัปตันทีมสิงโตคำาราม คว้ารางวัลดาวซัลโวไปครองหลังจาก
                                                         ซัดไปทั้งสิ้น 6 ประตู ซึ่งถือเป็นนักเตะอังกฤษคนที่ 2 ที่คว้า
                                                         ตำาแหน่งนี้ ต่อจาก แกรี่ ลินิเกอร์ ซึ่งเป็นดาวซัลโวฟุตบอล
                                                         โลกปี 1986 ที่เม็กซิโก ด้วยผลงานทะลวงตาข่ายคู่แข่งไป
                                                         6 ลูกเช่นกัน
                                                            ขณะที่รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมเป็นของ คิลิยัน เอ็มบาปเป้
                                                         ศูนย์หน้าดาวรุ่งของฝรั่งเศส รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม
                                                         เป็น ธิโบต์ กูร์ตัวส์ จอมหนึบของทีมชาติเบลเยียม รางวัล
                                                         นักเตะยอดเยี่ยมเป็นของ ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติ
                                                         โครเอเชีย และรางวัลทีมแฟร์เพลย์เป็นของทีมชาติสเปน
   18   19   20   21   22   23   24