Page 7 - M2F - 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
P. 7

NEWS UPDATE                   7

        วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2561






                 หนี้ค้ำ�กยศ.ยังเหลืออีก3แสน









            มื่อวันที่ 25 ก.ค. นางวิภา บานเย็น  เข้าหารือภายในที่ประชุมบอร์ด กยศ.”   ลูกศิษย์ ทั้งนี้ การถูกบังคับคดีของผู้ค้ำาประกัน บังคับคดี จ.กำาแพงเพชร ดำาเนินการถอนการ
          เผอ.โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ใน  นางเพ็ญรวี กล่าว                       เป็นปัญหาที่พบมากในการลงพื้นที่แนะนำา  ยึดทรัพย์ หากนางวิภาต้องการไล่เบี้ยคืนจาก
          จ.กำาแพงเพชร เดินทางเข้าพบ นางเพ็ญรวี    ส่วน น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรม ข้อกฎหมายให้กับชาวบ้านและผู้นำาท้องถิ่น  ลูกศิษย์ กยศ.พร้อมในการจัดหาทนายเพื่อ
          มาแสง ผอ.กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ใน บังคับคดี เผยว่า เบื้องต้นได้ประสานไปยัง นาย กำานัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้หลีกเลี่ยงการเซ็น  ดำาเนินการฟ้องร้องให้ โดยในส่วนคดีอีก 17
          ฐานะโฆษกกรมบังคับคดี เพื่อหารือกรณี  ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้ ค้ำาประกันหนี้ให้กับบุคคลอื่น เพราะกฎหมาย คดีที่เหลือนั้น อยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี ซึ่งทั้ง
          ถูกฟ้องร้องดำาเนินคดี เพราะไปค้ำาประกันให้ กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อหารือถึง จะบังคับคดีกับผู้ค้ำาประกัน  17 คนนี้ คิดเป็นเงินต้นที่ค้ำาประกันประมาณ
          นักเรียนในกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา  แนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้กับครูที่มี  อย่างไรก็ตาม นายชัยณรงค์กล่าวว่า เพื่อ 190,000 บาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย แต่หากคิด
          (กยศ.) กว่า 60 คน แต่ลูกศิษย์จำานวนหนึ่ง  ความตั้งใจดี ยอมค้ำาประกันหนี้กู้ยืมให้กับ  ช่วยเหลือนางวิภา กยศ.จึงร่วมมือกับสำานักงาน รวมดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท
          เบี้ยวหนี้ จนตัวเองถูกเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี
          สั่งยึดบ้านและที่ดิน
             ทั้งนี้ นางวิภากล่าวว่า ยังยืนยันข้อเสนอ
          ให้ กยศ.พิจารณาปลดภาระหนี้จากคนค้ำาไป
          ให้ผู้ปกครองนักเรียนที่กู้ กยศ.แทน โดย
          ลูกศิษย์ที่เบี้ยวหนี้ทั้งหมดมีเพียง 10 คน ที่
          สามารถติดต่อได้ และหลังจากเป็นข่าวมี
          ลูกศิษย์ 2 คนโทรมาขอโทษ และไม่คิดว่า
          เรื่องราวจะใหญ่โต และ 1 ใน 2 คนดังกล่าว
          ได้ชำาระหนี้ปิดบัญชีแล้วจำานวน 10,000 บาท
             สำาหรับนางเพ็ญรวี เผยผลเจรจากับนาง
          วิภาว่า นางวิภาให้ข้อมูลว่าได้เซ็นค้ำาประกัน
          หนี้ กยศ.ให้กับนักเรียนมากถึง 60 คน
          ปรากฏว่าลูกศิษย์จำานวน 23 คน ไม่ชำาระหนี้
          เงินกู้ให้กับ กยศ. จนนำาไปสู่การฟ้องและ
          บังคับคดีเอากับผู้ค้ำาประกัน ที่ผ่านมา นาง
          วิภาได้นำาเงินไปชำาระหนี้ให้กับ กยศ.ตาม
          หมายบังคับคดีแล้ว 3 คดี กระทั่งมีหมาย
          บังคับคดียึดบ้านและที่ดินใน จ.กำาแพงเพชร
          อีกครั้ง โดยมีกำาหนดขายทอดตลาดในเดือน
          ส.ค.นี้ ทำาให้ครูไม่สบายใจและเป็นกังวล
          เพราะไม่รู้ว่าจะถูกบังคับคดีอีกกี่ครั้ง และจะ
          ต้องหาเงินอีกเท่าไหร่ จึงจะชำาระหนี้แทน
          ลูกศิษย์ครบทั้งหมด
             นางเพ็ญรวีกล่าวอีกว่า ผลการไกล่เกลี่ย
          เบื้องต้นได้ข้อตกลงร่วมกันว่า กยศ.จะระงับ
          การบังคับคดีและขายทอดตลาดในเดือน
          ส.ค.นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่ม
          ความเข้มข้นในการติดตามตัวและทรัพย์ของ
          ลูกหนี้ รวมถึงผู้ค้ำาประกันรายอื่นที่มีความ
          สัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี้
          เพื่อรวบรวมทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด ก่อนนำา
          มาหักกับส่วนที่ครูเป็นผู้ค้ำาประกัน นอกจากนี้
          กยศ.ยังได้ขอข้อมูลลูกหนี้จากนางวิภา เพื่อส่ง
          ให้ฝ่ายกฎหมายออกติดตามและเร่งรัดหนี้สิน
             “ภายหลังการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี
          ครูวิภาสบายใจขึ้น ที่ผ่านมา เมื่อมีการฟ้อง
          คดีครูวิภาเดินทางไปศาลทุกนัด ในชั้นไกล่
          เกลี่ยคดีที่ จ.กำาแพงเพชร มีลูกหนี้เข้าร่วม
          การไกล่เกลี่ย 2 คน ครูวิภาก็เข้าร่วมไกล่เกลี่ย
          ในฐานะผู้ค้ำาประกันด้วย สำาหรับข้อเสนอของ
          ครูวิภาที่ขอให้ กยศ.ยกหนี้ของผู้ค้ำาประกัน
          ไปเป็นหนี้ของผู้กู้ฝ่ายเดียวนั้น ฝ่ายกฎหมาย
          ของ กยศ.ไม่สามารถให้คำาตอบได้ โดยจะนำา
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12