Page 15 - M2F - 20 เมษายน พ.ศ. 2561
P. 15
WORK & LIFE 15
วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561
อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้คนไทยกำาลังหันกันมาใส่ชุดไทย (หรือ
ก็ชุดโบราณ) กันทั้งบ้านทั้งเมือง ด้วยอิทธิฤทธิ์ของละคร
โทรทัศน์เรื่องบุพเพสันนิวาส แต่เราคงจะเดาไม่ได้ว่ากระแสนี้ ที่สำาคัญคือ ดีไซน์คลาสสิคเอามากๆ ทำาให้การ
จะอยู่ยั้งยืนยงได้นานแค่ไหน จะกลายเป็นค่านิยมระยะยาว? แคมปิ้งดูมีรสนิยมมากขึ้น ตรงกับเป้าหมายของผู้ผลิต
หรือว่าจะเป็นแค่กระแสฉาบฉวยแค่จบละครแล้วก็เลิกรากัน คือการทำาให้ชุดประเพณีนิยมของญี่ปุ่นเข้าถึงกิจกรรม
ไป? เรื่องนี้ยังยากจะให้คำาตอบ แต่หากเลือกได้ เราอยากจะให้ กลางแจ้ง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ทำาให้ชุดแบบเก่าเข้ากับ
กระแสนี้อยู่ไปยาวๆ จนคนไทยหันมาใส่ชุดของคนไทย ไม่ว่า วิถีชีวิตแบบใหม่ที่กิโมโนไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย
จะเป็นชุดดั้งเดิมของภาคไหนกันอย่างจริงๆ จังๆ ผลิตภัณฑ์นี้ยังไม่จัดจำาหน่าย แต่จะเริ่มเปิดขายใน
นอกจากจะช่วยส่งเสริมอัตลักษณ์ของแผ่นดินให้โดดเด่น วันที่ 25 เม.ย.นี้ สนนราคา 39,000 เยนต่อชุด หรือ
ไม่น้อยหน้าประเทศไทยแล้ว ยังมีข้อดีในแง่เศรษฐกิจ คือ ประมาณ 11,300 บาท ซึ่งถือว่าแพงพอสมควร แต่ต้อง
กระตุ้นธุรกิจของร้านเสื้อผ้าชุดไทยให้เติบโต กระตุ้น ไม่ลืมว่า OUTDOOR KIMONO เป็นส่วนผสมของ
อุตสาหกรรมสิ่งทอ และช่วยรักษางานหัตถกรรมของคนไทย กิโมโนซึ่งแพงหูฉี่อยู่แล้ว กับอุปกรณ์เอาท์ดอร์ซึ่งมีราคา
เอาไว้ แพงไม่แพ้กัน
แต่หากจะรักษาเทรนด์แบบเก่าเอาไว้ให้อยู่ยาวในโมเดิร์น ไม่ว่าจะอย่างไร กิโมโนเอาท์ดอร์ชุดนี้สามารถเป็น
จะต้องมีการปรับปรุงกันบ้าง ซึ่งเรื่องนี้คงต้องหันไปดูตัวอย่าง แรงบันดาลใจให้กับกระแสนิยมชุดไทยในบ้านเราได้เลย
ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องแต่งชุดญี่ปุ่น (กิโมโน) แต่ยัง เราหวังว่า ในอนาคตคงจะมีผู้ผลิตชุดไทยปรับปรุง
แตกหน่อต่อเทรนด์ยุคเก่าผสานกับยุคใหม่อย่างลงตัว ในบาง ดัดแปลงความคลาสสิคเข้ากับความโมเดิร์นและฟังก์ชั่น
กรณียังจะล้ำาหน้าอย่างมีรสนิยมคลาสสิคอีกด้วย ที่สอดคล้องกับกิจกรรมของคนรุ่นใหม่แบบนี้
Snow Peak เป็นบริษัทขายอุปกรณ์ปีนเขา ก่อตั้งโดย เพื่อที่ชุดแบบโบราณจะไม่ตาย เพราะได้ไอเดียใหม่ๆ
ยูคิโอะ ยาไม นักปีนเขาที่มีประสบการณ์ยาวนาน บริษัทนี้ THE F ผลักดันวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ
UTURIST
ทำ�กิโมโนให้โมเดิร์น
ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1958 ดังนั้น มันจึงไม่ใช่สตาร์ทอัพน้องใหม่
แต่หลังจากนั้นลูกชายของ ยาไม รับช่วงกิจการแทน และ
เปลี่ยนเป้าหมายจากการผลิตสินค้าเกี่ยวกับการปีนเขา มาเป็น
เสื้อผ้าและอุปกรณ์เอาท์ดอร์ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง
จนกระทั่งเมื่อปี 2014 หลานสาวของ ยาไม ก็ขยายแบรนด์
มาผลิตเสื้อผ้าเกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายขึ้น
ล่าสุด แผนกเสื้อผ้าของ Snow Peak ได้สร้างความแปลก
ใหม่ให้กับวงการเอาท์ดอร์และวงการแฟชั่น โดยร่วมมือกับ
บริษัท กิโมโน ยามาโตะ (Kimono Yamato) ผู้จัดจำาหน่ายชุด
กิโมโนที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1917 หนึ่งในบริษัทที่อยู่ในเครือคือ
Y.&SONS และ THE YARD ล่าสุดออกคอลเลคชั่นใหม่ที่ทำาให้
กิโมโนทั้งชายและหญิงดูโมเดิร์น แบบที่ใส่ไปเที่ยวแล้วยังรู้สึก
ว่าเป็นกิโมโน แต่มีภาพลักษณ์ที่ล้ำาสมัยและดูเป็นกึ่งทางการ
เอามากๆ
ผลงานของ Y.&SONS และ THE YARD นี่แหละที่น่าจะ
เป็นแรงบันดาลใจให้กับสินค้าตัวใหม่ของ Snow Peak
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ชุดสำาหรับทำากิจกรรมเอาท์ดอร์ที่มีสไตล์
แบบกิโมโน แต่ดีไซน์แบบฟิวเจอริสม์ แถมยังผลิตด้วยสิ่งทอ
ที่ล้ำาสมัยมากๆ เรียกว่า Dot Air ซึ่งมีน้ำาหนักเบา ระบายอากาศ
ได้ดี และแห้งง่าย
ผลิตภัณฑ์นี้เรียกว่า OUTDOOR KIMONO ออกแบบ
โดยช่างตัดกิโมโนมืออาชีพ แต่มีฟังก์ชั่นที่ทันสมัยมากขึ้น (รวม
ถึงสิ่งทอก็ไม่เหมือนกับกิโมโนทั่วไปอย่างที่เกริ่นไว้) โดยตัดเย็บ
ให้มีกระดุมกลัดและหูคล้องเข็มขัดสำาหรับเพิ่มความ
ทะมัดทะแมง ขณะเดียวกันโครงสร้างยังมีความโปร่งสบาย
แบบกิโมโน ทำาให้มีทั้งความคล่องตัวและความปลอดโปร่งเวลา
สวมใส่ในเวลาเดียวกัน