Page 14 - M2F - 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561
P. 14

14         WORK & LIFE                                                                                                     วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561












             ต้หวันเป็นประเทศที่ธุรกิจสายสตาร์ทอัพอยู่ยงคงกระพันที่สุดแห่งหนึ่ง
           ไตรงข้ามกับไทยที่สตาร์ทอัพกำาลังอ่อนแรงทุกที ความแข็งแกร่งของ
           ไต้หวัน ส่วนหนึ่งเป็นความสำาเร็จของภาคส่วนต่างๆ ที่ช่วยกันผลักดันและ
           ประคับประคองธุรกิจเกิดใหม่ ไม่ใช่แค่เร่งให้เกิดแล้วปล่อยทิ้งๆ ขว้างๆ ด้วย
           การสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนและ “ระบบนิเวศ” ทางธุรกิจขึ้นมา
              ตัวอย่างของระบบนิเวศทางธุรกิจที่สำาคัญคือ Taiwan Startup Stadium
           หรือ TSS ซึ่งเราเคยนำาเสนอไปแล้ว แต่จะขอกระตุ้นความจำาท่านผู้อ่าน
           สักเล็กน้อยว่า TSS มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ โค้ชชิ่ง
           นักธุรกิจหน้าใหม่ และเชื่อมโยงธุรกิจเกิดใหม่ในไต้หวันเข้าด้วยกันและ
           เชื่อมกับโลกภายนอก ธุรกิจที่เน้นสนับสนุนเป็นกลุ่มที่มุ่งสร้างนวัตกรรมและ
           ผลักดันโดยคนหนุ่มสาวที่เปี่ยมไปด้วยไฟในการทำางาน









                                                                                สตาร์ทอัพไต้หวัน





                                                                              ไม่มีวันตาย













              นอกจาก TSS แล้ว ล่าสุดยังมีอีกหนึ่งพื้นที่ที่                                                           เว็บไซต์ e27 รายงานว่า ที่ผ่านมา
           ขับเคลื่อนสตาร์ทอัพในไต้หวัน นั่นคือ Taiwan Tech                                                        ไต้หวันประสบความสำาเร็จในด้านฮาร์ดแวร์
           Arena                                                                                                   จนเกิดบริษัทที่มีชื่อเสียงหลายราย
              Taiwan Tech Arena หรือ TTA ริเริ่มโดย                                                                เช่น Foxconn, Asus, TSMC, และ D-Link
           กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพิ่งจะเปิด                                                              แต่ตอนนี้แนวโน้มกำาลังจะเปลี่ยนไป โดย
           ตัวไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.นี่เอง โดยมีสำานักงานอยู่ที่                                                    ความนิยมในฮาร์ดแวร์เริ่มจะหลีกทางให้
           เขตซงซาน ในกรุงไทเป เพื่อกระตุ้นธุรกิจสาย                                                               กับความนิยมในธุรกิจซอฟท์แวร์ ไม่ว่า
           เทคโนโลยีให้เติบใหญ่เป็นกำาลังของประเทศ                                                                 จะเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ระบบ
           ต่อไป เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ และ                                                            คลาวด์ อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ
           การพัฒนาซอฟท์แวร์                                                                                       Internet of Things และปัญญาประดิษฐ์
              ทางกระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่ใช่แค่ตั้งองค์กร                                                              ที่ต้องดัน AI กันถึงขนาดนี้ เพราะ
           ขึ้นมาแล้วหายเข้ากลีบเมฆ เพราะมีแผนจัดอีเว้นท์                                                          ตลาดนี้ใหญ่โตมโหฬารมาก ปีที่แล้ว
           ใหญ่ๆ เพื่อรองรับการก่อตั้ง TTA เช่น การสรุป                                                            ทำารายได้ถึง 450 ล้านเหรียญสหรัฐ
           ย่อให้กับสตาร์ทอัพ 12 ประเทศ การจับคู่ระหว่าง                                                           แต่ภายในปี 2030 อาจจะมีมูลค่าถึง
           สตาร์ทอัพกับผู้ลงทุนร่วมจาก 6 ประเทศ และ                                                                1.8-3.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
           การจัดเยี่ยมชมสถานที่สำาหรับผู้มาเยือนจากต่างแดน จะเห็นว่า ไต้หวัน      ไต้หวันจะต้องจับชิ้นปลามันนี้ให้อยู่มือ แผนการแรกคือ สนับสนุนสตาร์ทอัพสายนี้
           ทำาอะไรทำาจริง ไม่ทิ้งกลางทาง                                        แบบเต็มที่ ทั้งเงินทุน การฝึกอบรม และการจับคู่กับหุ้นส่วนธุรกิจต่างแดน ด้วยรากฐาน
              ที่ผ่านมา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังช่วยเหลือสตาร์ทอัพ     ที่แข็งแกร่งคงทำาให้ไต้หวันสามารถปักหมุดในวงการนี้ได้อย่างแน่นอน
           อย่างแข็งขันมาหลายปี เช่น ให้เงินทุนอุดหนุนสตาร์ทอัพสัญชาติไต้หวัน 50 ราย  และยังไม่ทันไร ไต้หวันก็เนื้อหอมเสียแล้ว โดยเมื่อเดือน มี.ค. Google ประกาศ
           ที่ปักหลักอยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ และเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งประกาศร่วมมือกับ   ลงทุนด้าน AI ที่ไต้หวัน โดยจะมีการจ้างวิศวกรปัญญาประดิษฐ์ถึง 300 ตำาแหน่ง ว่าจ้าง
           Singularity University เพื่อจัดการแข่งขันสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก  พนักงานในสายที่เกี่ยวข้อง 5,000 คน และพนักงานขายออนไลน์อีก 20,000 ตำาแหน่ง
              โดยในปีนี้จะเน้นกิจการที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการ         ภายในปีนี้ จากการรายงานของ Taipei Times
           แก้ปัญหาเรื่องพลังงาน สิ่งแวดล้อม อาหารและน้ำา แต่ยังสามารถตีโจทย์      ถือเป็นการลงทุนด้าน AI ในไต้หวันโดยบริษัทต่างชาติที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
           ปัญหาที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย เช่น การสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยธรรมชาติ และ  จากเดิมที่ไต้หวันก็เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาของ Google ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
           การศึกษา เป็นต้น                                                     อยู่แล้ว
              จะเห็นได้ว่า ไต้หวันมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง     ความเชื่อมั่นของบริษัทชั้นนำาแสดงให้เห็นถึงอนาคตอันสดใสของธุรกิจสายนี้
           ด้าน AI เป็นการก้าวกระโดดจากการเป็นมหาอำานาจด้านการผลิต              และจะมีส่วนช่วยประคับประคองให้สตาร์ทอัพสายไฮเทคในไต้หวันก้าวไปข้างหน้า
           เซมิคอนดักเตอร์                                                      อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลอยแพไว้กลางทาง
   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19