ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนทั่วโลกต่างก็สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังมีโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของตัวเองและคนที่เราสนใจ
ซึ่งสามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น ข้อมูลเหล่านี้จึงถูกนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการตลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพื่อวางแผนทำการตลาด ตลอดจนนำข้อมูลไปใช้งานประกอบโครงการต่าง ๆ จึงเกิดเป็น PDPA หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นมา เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยอยู่บนพื้นฐานที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับกฎหมายตัวนี้กันให้มากกว่าเดิม
ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเราหลุดรอดไปให้บุคคลที่เราไม่รู้จักนำไปใช้แสวงหาประโยชน์หรือนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายแน่ ๆ ดังนั้น เราจึงควรทำความเข้าใจกันก่อนว่า PDPA คือ พ.ร.บ. ที่จะคุ้มครองข้อมูลอะไร
ข้อมูลส่วนตัวนั้นมีหลายส่วนด้วยกัน นอกจากข้อมูลทั่วไปอย่างชื่อ นามสกุล ที่อยู่ และช่องทางการติดต่อแล้ว ยังรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกที่มีความอ่อนไหว เช่น
• สถานะอาชีพในอดีตและปัจจุบัน
• ข้อมูลทางการเงิน
• เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์
• ความคิดเห็นทางการเมือง
• ความเชื่อทางศาสนาหรือลัทธิ
• ข้อมูลด้านสุขภาพและพันธุกรรม รวมไปถึงความพิการบางอย่างและพฤติกรรมทางเพศ
• ประวัติอาชญากรรม ซึ่งไม่ควรเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อย่างที่เห็นกันแล้วว่าข้อมูลเหล่านี้มีความอ่อนไหวมาก หากไม่มีการคุ้มครองและปล่อยให้ใครก็ได้เข้าถึง อาจส่งผลเสียต่อเจ้าของข้อมูลได้ ไม่เพียงแต่ผู้อื่นจะรู้ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเหล่านี้เท่านั้น แต่อาจถูกแอบอ้างนำไปใช้แบล็กเมล์ ปลอมแปลงตัวตน หรือทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
PDPA พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร ทำไมต้องคุ้มครอง?
PDPA คือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองข้อมูลดังที่ได้กล่าวไป รวมถึงข้อมูลส่วนตัวในอีกหลายส่วนของบุคคล เพื่อให้ปลอดภัยจากการแสวงหาผลประโยชน์ทางการตลาด โดยบุคคลจะต้องรับทราบและยินยอมก่อนที่จะให้หน่วยงานต่าง ๆ เปิดเผยหรือใช้ข้อมูลก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังช่วยให้ปลอดภัยจากการถูกขโมยตัวตนหรือการขายข้อมูล เพื่อไม่ให้เจ้าของข้อมูลถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่พึงมีอีกด้วย
PDPA คือ พ.ร.บ. ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งต่อบุคคลทั่วไป และต่อผู้ใช้งานทางข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำงานเกี่ยวกับการตลาด เว็บไซต์ที่ต้องมีการเก็บข้อมูลของลูกค้า ตลอดจนหน่วยงานราชการ ล้วนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในข้อมูลนี้ เพื่อรักษาสิทธิส่วนบุคคลของกันและกัน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาประเทศว่าประเทศไทยมีกฎหมายที่คุ้มครองและให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว