ได้ทั้งความอร่อยและความคิดสร้างสรรค์ในจานเดียวกัน

อาจไม่ใช่ผัดไทยอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา แต่ที่ต้องให้ ‘ผัดไทสตูดิโอ’ คือเรื่อง "ไอเดีย" ที่ใส่ลงไปในแต่ละจาน จนกลายเป็นผัดไทยที่น่าลิ้มลอง

การพลิกแพลงอาหารประจำชาติอย่างผัดไทยมาเป็นจานใหม่ ต่อให้ Twist หรือบิดอย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้ คือ “ชอบ” กับ “เกลียด” ถ้าทำออกมาแล้วโดน คนก็จะชอบและตามมากินอย่างเหนียวแน่น ตรงกันข้าม ถ้าล้มเหลวไม่เป็นท่า ก้อนอิฐก็พร้อมจะปาใส่แบบไม่ยั้งมือ และตามมาด้วยดราม่าลบๆ อีกมากมาย

สำหรับ ดิ๊ฟ-ณัฐปกรณ์ จิตเมตตากุล ชายหนุ่มผู้ฝันอยากมีร้านผัดไทยแบบฉบับตัวเอง แทบลืมเงื่อนไขทั้งหมดที่ว่ามา เพราะดิ๊ฟคิดแค่ว่าอยากนำเสนอผัดไทยรูปแบบใหม่ แปลกแต่ยังคงกินได้ ไม่เหมือนเดิม แต่ยังคงสูตรน้ำปรุงที่อร่อย ไม่ได้ดูเป็นการบิดจนเบี้ยวและหารากความเป็นผัดไทยไม่เจอ

หลังลองถูกลองผิดและเรียนรู้การทำผัดไทยอยู่นาน ในที่สุดหนุ่มวัย 27 ปี ซึ่งมีพ่อเป็นคนสุขโทัย ส่วนแม่เป็นคนร้อยเอ็ด ก็มาสรุปที่ผัดไทยใส่ถั่วผักยาว เลียนแบบก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่เขาคุ้นลิ้น โรยผักชีฝรั่งซอยตอนเสิร์ฟ ไม่จบ เขายังต่อยอดผัดไทยสารพัด แทนที่จะใช้วัตถุดิบหลักก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ก็เปลี่ยนมาเป็นเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปาท่องโก๋จิ๋ว เส้นอูด้ง และเกี๊ยวกรอบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกให้คนรักต้มยำได้ชิมผัดไทยต้มยำรสเจ็บ

เอกลักษณ์ของผัดไทยร้านนี้ จะผัดจานต่อจาน แม้เวลาพีก หรือมีลูกค้าคิวยาว เขาก็ยึดมั่นที่จะผัดทีละจาน ข้อดีอาจมีมากกว่าข้อเสีย ถ้าเทียบกันแล้ว สดใหม่และร้อนๆ จากเตา หลายคนเห็นตรงกันข้อนี้ ส่วนข้อเสียหลักๆ คงเป็นเรื่องเสียเวลารอ

มาถึงร้านผัดไทยใส่ไอเดีย อย่างแรกที่ต้องชิม คือ จานออริจินัล (49 บาท) ผัดไทยเส้นเล็กเครื่องเคราจัดเต็ม ผัดกันให้เห็นทุกขั้นตอน นี่อาจเป็นจุดหนึ่งที่ลูกค้าชอบ ผัดเสร็จตักใส่จาน รองด้วยใบตอง เหตุผลทำไมต้องรองใบตอง ดิ๊ฟบอกว่าอยากให้ผัดไทยแลดูน่ากิน ทั้งอยากสร้างภาพจำแก่ลูกค้าว่าที่นี่เสิร์ฟใส่ใบตอง

เส้นเล็กผัดมาแบบพอดี เหนียวนุ่ม ไม่เละ รสชาติถือว่ากลมกล่อม ส่วนตัวว่าน้ำปรุงอ่อนหวานไปนิด แต่ลิ้นใครก็ลิ้นใคร ระดับความหวานเพิ่มกันได้ ถ้าอยากเผ็ดหน่อยก็เหยาะพริกป่น ถั่วลิสงบดตาม อร่อยลงตัว อย่าลืมแกล้มด้วยผักดิบ ถั่วงอก ใบบัวบก และใบกุยช่าย

ลองสั่ง ผัดไทยต้มยำ (59 บาท) แต่ไม่เอาเส้น กลิ่นต้มยำหอมมาก อย่างที่บอก ความเป็นผัดไทยยังมีครบ เพิ่มความแซ่บด้วยสูตรน้ำปรุงรสต้มยำ เข้มข้นไม่เบา อ่อ...ลืมบอกไปว่าจานนี้มีกากหมูเป็นตัวชูรส ลำพังแค่กากหมูกินเล่นๆ ก็โอเคแล้ว แต่ดันมาผสมกับเครื่องผัดไทยและรสต้มยำ โอ้ย!!! ต้องให้เขา จะว่าไปอร่อยและถูกใจกว่าผัดไทยออริจินัลด้วยซ้ำ เสิร์ฟร้อนๆ ไม่ต้องปรุงรสใดๆ อารมณ์เหมือนกินต้มยำแห้งผัดคลุกเครื่อง ผัดเกือบจะแห้งสนิท เข้าเนื้อเข้ารสของต้มยำ

Cr. โจ เกียรติอาจิณ 

อีกจานที่หลายคนชอบและส่วนตัวก็คิดว่าเป็นการ Twist ได้อร่อยดีทีเดียว ผัดไทยปาท่องโก๋ (59 บาท) ปกติปาท่องโก๋จิ๋วเพิ่มอรรถรสให้เต้าฮวย ไม่ก็โจ๊ก กรุบกรอบเคี้ยวเพลิน พอมาอยู่ในจานผัดไทย เครื่องเคราใส่แบบไม่หวง บวกกับน้ำหนักมือการปรุงที่ได้มาตรฐาน ทำให้จานนี้อร่อยเกินคาด

Cr. โจ เกียรติอาจิณ 

ผัดไทยมาม่า (49 บาท) แปลกดี เส้นมาม่านำเราเข้าสู่โลกผัดไทยได้อย่างไม่เคอะเขิน ใครที่ชอบความเหนียวนุ่มของเส้นบะหมี่ยี่ห้อนี้เป็นทุนเดิม น่าจะชอบและอยากให้อร่อยเป็นทวี ควรสั่งผัดไทยมาม่าต้มยำ ต้มยำกุ้งแบบถ้วยที่ว่าแน่ ยังแพ้ผัดไทยมาม่าต้มยำ ชอบกุ้งก็ใส่กุ้งเพิ่มได้

Cr.fb Phadthai Studio 

อื่นๆ ที่เรายังไม่ได้ลองและคิดว่าจะไปลองเร็วๆ นี้ เช่นว่า ผัดไทยอูด้ง (79 บาท) ผัดไทยไข่เค็ม (59 บาท) ผัดไทยเกี๊ยวกรอบ (49 บาท) ผัดไทย 3 กรอบ (59 บาท) ประกอบด้วย ปาท่องโก๋จิ๋ว กากหมู และเกี้ยวกรอบ ประสานความอร่อยและความกรอบ สุดๆ ไอเดียสร้างสรรค์

ร้านอยู่ระหว่างกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนกับ รพ.ประสานมิตร หรือจะนั่งบีทีเอสลงสถานีอารีย์ จากนั้นเดินต่ออีก 500 ม. (มาทางพหลโยธิน ซ.9) ก็จะเจอร้านอยู่ริมถนนพหลโยธิน เปิดบริการ วันจันทร์-เสาร์ (หยุดอาทิตย์) ตั้งแต่ 10.30-20.00 น. โทร. 08-7920-3715

(ราคาต่อหัวประมาณ 80-100 บาท / ความอร่อย 4 ดาว /ราคา 5 ดาว)