วิศวกรรมสถานฯ ชี้ ขาดแผนรื้อถอน และเครื่องมือไร้ประสิทธิภาพ บุคลากรไม่เข้าใจ สาเหตุอาคารถล่มหน้าซอยรามคำแหง 51/2 จี้ รฟม.ทำแผนรื้อถอนตามหลักวิชาการ ส่งเขตบางกะปิพิจารณา
นางชมจิตร พงษ์เสมา ผอ.เขตบางกะปิ กล่าวกรณีเกิดเหตุอาคาร 4 ชั้น บริเวณปากซอยรามคำแหง 51/2 พังถล่มขณะรื้อถอน ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารดังกล่าว ตัวแทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้สรุปสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้อาคารพังถล่มขณะรื้อถอน เนื่องจากผู้รับจ้างขาดแผนดำเนินการรื้อถอน และเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความระมัดระวัง ขณะที่บุคลากรไม่มีความเข้าใจในการรื้อถอน จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
สำหรับการดำเนินการกับผู้รับเหมาและผู้ควบคุมงาน รวมทั้งการรับผิดชอบของบริษัทผู้รับเหมาต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำนักงานเขตฯ ได้ออกคำสั่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ให้ระงับการก่อสร้าง ห้ามเข้าห้ามใช้อาคาร และให้แก้ไขมาตรการป้องกันภายใน 30 วัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท เครุ่งเรือง จำกัด (ผู้รับเหมา) และวิศวกรผู้ควบคุมงาน ส่วนผู้ที่ได้รับความบาดเจ็บ อยู่ระหว่างรักษาตัวและสังเกตอาการที่โรงพยาบาล โดย รฟม.จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกด้าน
นอกจากนี้ ในเรื่องมาตรการควบคุมและตรวจสอบความปลอดภัยระหว่างการรื้อถอนอาคาร รวมทั้งการดำเนินการกรณีบริษัทผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด สำนักงานเขตฯ สำนักการโยธา รฟม. วสท. สภาวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร ธนาคารออมสิน และกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยเขตบางกะปิ มีข้อสรุปร่วมกันให้ รฟม. จัดทำแผนการรื้อถอนอาคารให้เป็นไปตามหลักวิชาการ และจัดส่งให้สำนักงานเขตฯ พิจารณาโดยเร็ว ซึ่ง รฟม. รับทราบและจะเร่งรัดดำเนินการ ทั้งนี้ หากผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามแผนป้องกันอุบัติเหตุดังกล่าว สำนักงานเขตฯ จะแจ้งความกรณีฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานต่อไป
