กรมควบคุมโรคโชว์ตรวจค่าควันดำรถในราชการ พบเกินมาตรฐาน 1 คัน พร้อมผุดไอเดียลดต้นกำเนิดฝุ่นละออง
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่กรมควบคุมโรค นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เป็นประธานกิจกรรมรณรงค์รวมพลังสู้ฝุ่น PM 2.5 “ตรวจสภาพรถ งดปล่อยควันดำ” โดยได้มีการตรวจวัดค่าควันดำรถยนต์ที่ใช้ในราชการของกรมควบคุมโรค และรถพยาบาลฉุกเฉินของสถาบันบำราศนราดูร รวม 4 คัน ซึ่งการตรวจควันรถยนต์ที่ใช้ในราชการกรมควบคุมโรค คันที่ 1 ผลการตรวจ 2 ครั้งแรกมีการปล่อยควันอยู่ที่ 58.84% และ 47.29% ถือว่าเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดให้ไม่เกิน 45% แต่เมื่อมีการตรวจซ้ำครั้งที่ 3 ไม่พบควันดำเกินค่ามาตรฐาน ส่วนรถตัวอย่างที่นำตรวจอีก 3 คันที่เหลือพบว่าไม่มีการปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐานแต่อย่างใด โดยผลการตรวจรถพยาบาลฉุกเฉิน มีค่าควันดำครั้งแรกอยู่ที่ 3.70% ครั้งที่ 2.23%
นพ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน คือการปล่อยควันดำของรถ โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล เครื่องยนต์ที่ใช้มานานทำให้เกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์จนเกิดควันดำขึ้น ทางแก้ไขคือต้องลดต้นกำเนิดฝุ่น คือ เปลี่ยนชนิดน้ำมัน หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ ให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในส่วนของกรมควบคุมโรคมีการตรวจสภาพและซ่อมบำรุงยานพาหนะทุกคัน ทุกปีงบประมาณ ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 จำนวน 100 คัน พบว่ามีรถที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน 11 คัน ซึ่งคันที่นำมาเป็นตัวอย่างในการตรวจก็เป็น 1 ใน 11 คันที่จะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ได้มาตรฐานต่อไป
ดังนั้น กรมขอเป็นส่วนหนึ่งของการลดการเกิดฝุ่น PM 2.5 ด้วย 3 นโยบายสำคัญ คือ 1.สนับสนุนให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เดินทางมาทำงานด้วยการเดิน ปั่นจักรยาน ใช้รถสาธารณะ หรือนั่งรถร่วมทาง 2.รณรงค์ให้มีการตรวจสอบควันดำรถยนต์ส่วนตัวของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ เพื่อลดการปล่อยควันดำ ก่อนหน้าที่จะเกิดสภาพอากาศปิดช่วง 3 เดือนแรกของปี 3.จำกัดเส้นทางและระยะเวลาวิ่งบนท้องถนน