รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่จี้คดีแก๊งวัยรุ่นงานบวช ทำร้ายครู นร.วัดสิงห์ ย้ำ 'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' กำชับให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด เบื้องต้นออกหมายจับ 24 ราย

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าให้กำลังใจกับครูอาจารย์และนักเรียน ที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ โดยมี นายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูต้อนรับและร่วมประชุม โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวชี้แจงว่า ทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยยืนยันว่า จะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและจริงจังเด็ดขาดตามกรอบของกฎหมาย เพื่อไม่ให้นำไปกระทำเป็นเยี่ยงอย่างได้อีก

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ทั้งหมด 24 ราย เป็น เยาวชน 4 ราย พร้อมกับแจ้งข้อหา ทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการโดยไม่ได้รับอนุญาติ, ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ , ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ และ ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำ หากมีเบาะแสเพิ่ม ก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในส่วนของพฤติกรรมที่นักเรียนหญิงถูกลวนลามนั้น ขณะนี้ได้รอเรียกนักเรียนหญิงมาสอบปากคำและชี้ตัวผู้ก่อเหตุ หากมีความชัดเจน ก็จะมีการแจ้ง ข้อหาอนาจาร เพิ่มเติมทันที

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าว เป็นกรณีที่อุกอาจมาก จึงได้มีการกำชับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ที่มีโรงเรียน อยู่ในความรับผิดชอบ ให้มีการลงไปดูแลตรวจสอบความปลอดภัยว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้ายแรง นอกจากนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับมาว่าให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน กล่าวว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่า มูลเหตุจูงใจเกิดจากความไม่พอใจที่ไม่ให้ใช้เครื่องเสียงที่เช่ามาใช้ในงานบวชเท่านั้น โดยเหล่าผู้จัดคนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล เป็นเพียงกลุ่มกลองยาวในพื้นที่เท่านั้น ส่วนข้อหาอื่นยังต้องสอบพยานว่า แต่ละคนลงมือก่อเหตุอะไรบ้าง เพราะบางรายทำร้ายร่างกาย บางรายทำลายทรัพย์สิน แต่กระทำอนาจารมีรายเดียว ถูกคุมขังอยู่ และค่อนข้างมีอายุแล้ว แต่ยังต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนแจ้งข้อหากระทำ อนาจาร เนื่องจากรายละเอียดการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้น ต้องแยกประเด็นของผู้ต้องหาแต่ละราย เนื่องจากมีบางรายไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรืออาจแค่เข้าไปยืนเฉยๆ

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 รายที่เป็นเยาวชน ซึ่งจะมีการพิจารณาข้อกล่าวหาต่อไป รวมถึงยังต้องทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่ามีเด็กหญิงอายุ 18 ปี รายหนึ่งที่ถูกลวนลาม ยังไม่ได้เข้าให้ปากคำแต่อย่างใดเนื่องจากติดสอบ โดยการขัดขวางการสอบของนักเรียนไม่ได้ระบุเป็นความผิดทางกฎหมายอาญา หากแต่ว่าทางโรงเรียน หรือ กระทรวงศึกษาธิการอาจจะมีกฎหมายพิเศษอย่างไรหรือไม่