BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

18 ธันวาคม 2563 : 16:10 น.

เดินหน้ายกซากรถต่อเนื่องในพื้นที่เขตราชเทวี ผู้มีเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของค่าปรับ

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการยกซากรถ ในพื้นที่เขตราชเทวี เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน โดยมี นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ผู้บริหารสำนักเทศกิจ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี กองโรงงานช่างกล สถานีตำรวจนครบาลพญาไทและผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 70 คน ร่วมลงพื้นที่ ณ บริเวณถนนกำแพงเพชร 5 เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ สำนักเทศกิจ ได้ดำเนินโครงการ 100 วัน กำจัดซากรถ ลดปัญหาจราจรเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยให้สำนักงานเขตสำรวจและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย (พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดฯ มาตรา 18 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท) ซึ่งในพื้นที่เขตราชเทวีได้สำรวจพบซากรถ จำนวน 12 คัน อยู่บริเวณถนนกำแพงเพชร 5 จำนวน 8 คัน เคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 5 คัน อยู่บริเวณชุมชนซอยมั่นสิน จำนวน 4 คัน เคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 2 คัน จึงเหลือซากรถที่ต้องเคลื่อนย้ายในพื้นที่เขตราชเทวีทั้งสิ้น จำนวน 5 คัน ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราชเทวี จึงได้ร่วมกับสำนักเทศกิจ กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง และสถานีตำรวจนครบาลพญาไท เคลื่อนย้ายซากรถยนต์จำนวน 5 คันดังกล่าว ซึ่งจอดอยู่บริเวณถนนกำแพงเพชร 5 จำนวน 3 คัน และจอดอยู่บริเวณซอยชุมชนมั่นสิน จำนวน 2 คัน โดยจะเคลื่อนย้ายไปเก็บบริเวณที่ว่างของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(สะพานหัวช้าง) เป็นการชั่วคราว หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการดำเนินการเคลื่อนย้ายซากรถยนต์นั้นจะมีปัญหาหลักใหญ่ๆ อยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก การขาดแคลนรถยก รถลาก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันได้ประสานความร่วมมือไปยังกองโรงงานช่างกลให้ช่วยดำเนินการเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตจะต้องรอคิว ส่งผลให้การดำเนินการทำได้ล่าช้า ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจขอจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อรถยก รถลาก พร้อมอุปกรณ์ไว้ประจำแต่ละกลุ่มเขตให้ครบทั้ง 6 กลุ่มเขต ส่วนเรื่องที่สอง สถานที่จัดเก็บซากรถ ซึ่งแต่ละเขตส่วนใหญ่ไม่มีสถานที่จัดเก็บซากรถที่เคลื่อนย้ายมา ก็จะมีการใช้พื้นที่ของสำนักสิ่งแวดล้อมที่อยู่เขตหนองแขม เป็นสถานที่จัดเก็บซากรถส่วนกลาง ขณะนี้สำนักเทศกิจได้ทำเรื่องขอจัดสรรงบประมาณดำเนินการเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้จะมีการจัดหาพื้นที่จัดเก็บซากรถเพิ่มเติมเพื่อเก็บซากรถ ทั้งนี้จากการสำรวจซากรถทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบซากรถจำนวน 819 คัน ดำเนินการเคลื่อนย้ายแล้ว จำนวน 720 คัน กรุงเทพมหานครดำเนินการเคลื่อนย้าย จำนวน 59 คัน เจ้าของเคลื่อนย้ายเอง จำนวน 661 คัน คงเหลือซากรถทั้งสิ้น จำนวน 99 คัน ในอนาคตถ้ามีรถยก รถลาก อุปกรณ์ต่างๆ และสถานที่ในการจัดเก็บซากรถเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้การย้ายซากรถทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนไม่จอดรถหรือตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางสาธารณะ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองด้วยการแจ้งเบาะแสการจอดทิ้งซากรถยนต์ได้ที่ฝ่ายเทศกิจทุกสำนักงานเขต หากเบาะแสดังกล่าวนำไปสู่การจับปรับ ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของค่าปรับตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 18 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดทิ้งวางหรือกองซากยานยนต์บนถนนหรือสถานสาธารณะ โดยบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 56 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามกฎหมายได้ระบุให้มีการสืบหาเจ้าของซากยานยนต์ก่อน โดยจะทำการติดประกาศ 15 วัน หากไม่พบเจ้าของ กรุงเทพมหานครจะนำไปจัดเก็บรักษาไว้ในที่ที่สำนักงานเขตจัดไว้ ถ้ามีเจ้าของมาติดต่อจะดำเนินการเปรียบเทียบปรับ หากไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะจัดเก็บซากรถยนต์ไว้ประมาณ 6 เดือน และเป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตในการขายทอดตลาดซากรถยนต์ดังกล่าวต่อไป

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ