เงินสะพัดบางกอกเจมส์ 2,100 ล้าน มีผู้เข้าชมกว่า 1.4 หมื่นราย ชี้สินค้าเอสเอ็มอีขายดีสุด
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เผยว่า ผลการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (บางกอก เจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์) ครั้งที่ 63 ระหว่างวันที่ 20-24 ก.พ. 2562 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าชมงานกว่า 1.4 หมื่นราย จาก 118 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 5.4% และมียอดการสั่งซื้อคิดเป็นมูลค่าเกือบ 2,100 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าสั่งซื้อทันทีวันเจรจาธุรกิจ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.2% มูลค่าการสั่งซื้อในวันจำหน่ายปลีก 360 ล้านบาท และมูลค่าสั่งซื้อภายใน 1 ปี อีก 1,000 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีการซื้อขายมากสุด ได้แก่ อัญมณี เครื่องประดับแท้ เครื่องประดับเงิน เครื่องจักร และเครื่องประดับทอง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการผลักดันสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็กจากทั่วทุกภูมิภาค เปิดตัวสู่ตลาดโลกตามนโยบาย Local to Global ได้เป็นผลสำเร็จ สินค้ามาจากผู้ประกอบการ 123 ราย จาก 21 จังหวัด เช่น จันทบุรี ตาก สุโขทัย เชียงใหม่ ลำปาง พิจิตร สุรินทร์ ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พังงา และสินค้าจากนักออกแบบไทยได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเป็นอย่างมาก เพราะสวยงาม มีเอกลักษณ์ และราคาไม่แพง สามารถทำยอดสั่งซื้อได้กว่า 120 ล้านบาท
สำหรับ สินค้าที่จัดทำขึ้นมาเพื่อจำหน่ายเฉพาะกลุ่ม ได้รับความสนใจผู้ซื้อทั้งกลุ่มซูเปอร์ริช ที่สามารถขยายตลาดได้เพิ่มในอาเซียน เอเชียใต้ และจีน เครื่องประดับสำหรับคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ขายได้ดีในตลาดจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ เครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยงสามารถขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและสังคมคนโสด และเครื่องประดับแนวความเชื่อโชคลาง ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน รวมทั้งสินค้าที่ทำขึ้นมาใช้ประดับและตกแต่งชุด โดยเป็นเครื่องประดับที่ทำจากทองเหลืองก็ได้รับความนิยม