แฮปปี้เฟรชซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบออนไลน์ได้รับเงินลงทุนระดับ Series C กว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก Mirae Asset-Naver Growth Fund และพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
นายกิลเลม ซาการ์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแฮปปี้เฟรช เปิดเผยว่า แฮปปี้เฟรช ซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบออนไลน์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนประกาศการได้รับเงินลงทุนระดับ Series C ด้วยเงินสนับสนุนการลงทุนกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 636 ล้านบาท จาก Mirae Asset-Naver Growth Fund และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อื่นๆ อย่าง LINE Ventures, Singha Ventures และ Grab Ventures ซึ่งเงินทุนที่ได้รับมานั้นจะถูกใช้เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีและสนับสนุนด้านเฉพาะทางต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การรวมช่องทางสื่อสารต่างๆ รวมกันเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ (omnichannel)
นายกิลเลม กล่าวว่า แฮปปี้เฟรชมีเป้าหมายหลักในการขยายพื้นที่ให้บริการอย่างทั่วถึงทุกภูมิภาค รวมไปถึงการลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่สำหรับนวัตกรรมล้ำสมัย พร้อมจัดสรรผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นกำลังในการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกมีอยู่อย่างต่อเนื่องให้ทุกพื้นที่บริการให้รวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงสังคมโดยการสร้างมูลค่าของสินค้าและโอกาสทางอาชีพ สอดคล้องกับแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ จากจุดเริ่มต้นการร่วมค้าขายกับระดับฟาร์มสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตทวีปเอเชียนั้น การเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเราได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบออนไลน์ ทุกสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวันแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตอันใกล้ทุกคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะหันมาสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ และบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นที่จะเพิ่มแนวโน้มการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันจะช่วยส่งเสริมแฮปปี้เฟรชให้เติบโตอย่างมั่นคง
นายกิลเลม กล่าวเสริมว่า หากจะก้าวไปข้างหน้าต้องมีการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล เราเชื่อว่าเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของโลกยุคดิจิทัล จึงทำให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง การบริการส่วนบุคคลเพื่อให้ตรงจุดประสงค์ ทางบริษัทฯ ตั้งมั่นที่จะใช้เงินทุนเพื่อมุ่งหน้าสู่การปฏิวัติข้อมูล โดยเริ่มจากการออกแบบช่องทางต่างๆ ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ขององค์กร
ทั้งนี้ มีตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลชำระเงินออนไลน์ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค จนไปถึงการให้บริการแบบส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจผ่านช่องทางดิจิทัลทุกรูปแบบ ด้วยจัดเตรียมและส่งมอบบริการตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ ภายในหนึ่งชั่วโมงหรือจัดส่งทันที ขณะนี้เราเป็นผู้บุกเบิกการใช้โปรแกรม Algorithm สำหรับเรียนรู้การยื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าแต่ละคนตามประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง”
สำหรับ แฮปปี้เฟรชถูกมองเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 จนถึง พ.ศ. 2561 ได้สะท้อนให้เห็นถึงจำนวนยอดผู้ซื้อผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางซึ่งมองหาความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการด้านบริการและส่วนลดที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป จึงทำให้บริการของแฮปปี้เฟรชชนะใจผู้บริโภควัยทำงานและครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง โดยแฮปปี้เฟรชตั้งเป้าไปยังช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่เป็นการตลาดแบบ Dynamic และ Macro-Trend จึงเหมาะสมกับการนำเสนอมูลค่าของบริษัทฯ สู่ท้องตลาดซึ่งการลงทุนระดับ Series B นั้น ผู้นำในการลงทุนคือ Samena Capital
