MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

09 มีนาคม 2563 : 18:44 น.

SPCG พบนักลงทุนโชว์ผลประกอบการปี 2562 กวาดรายได้ 5,246 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท มากกว่าปีก่อน พร้อมจ่ายปันผล 1.22 บาท/หุ้น กว่า 700 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG แถลงผลประกอบการประจำปี 2562 ในงาน “บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day”ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษกดินแดง

ดร.วันดี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัท และบริษัทย่อย สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 5,246.5 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน จำนวน 681.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,011.3 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 2.74 บาท เติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,923.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 87.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 3

ทั้งนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 ก.พว 2563 ได้มีมติอนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2562ในอัตราหุ้นละ 1.22 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 701,272,800 บาทซึ่งได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายในงวดนี้ อัตราหุ้นละ 0.72 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 17 มี.ค.2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 15 พ.ค.

ทั้งนี้ การจ่ายปันผลครั้งนี้ ยังสูงกว่าเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2561 ที่ 1.20 บาทต่อหุ้น พร้อมทั้งกำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ในวันที่ 17 เม.ย. 2563 เวลา 14.00น. ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท 11

สำหรับ แผนการดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2563บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 6,700 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm)จำนวน 36 โครงการ รวมกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์และธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof)ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR บริษัทในเครือของ SPCG

ดร.วันดี กล่าวถึงธุรกิจ Solar Roof ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจากได้ต่อยอดความสำเร็จโดยพัฒนาการลงทุน Solar Roof ในรูปแบบ Leasing กับสถาบันการเงินได้ระยะเวลายาวนานถึง 15 ปีโดยได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟ) ร่วมกับบริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ลิส แอนด์ ไฟแนนซ์ จำกัด (“MUL”) บริษัท พีอีเอเอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (“PEA ENCOM”) และบริษัท เคียวเซร่าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น (“Kyocera”) เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสการลงทุน Solar Roof สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย

ดร.วันดี กล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม SPCG ได้ลงทุนร่วมกับ บริษัท เคียวเซร่าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น(“Kyocera”),KyudenkoCorporation, และผู้ร่วมลงทุนรายย่อยอื่นๆเพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มภายใต้ชื่อโครงการ “Ukujima Mega Solar Project” ขนาดกำลังการผลิตประมาณ469เมกะวัตต์ณ เกาะ Ukujima เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 2,600ล้านบาท หรือคิดเป็น 17.92%โดยมีกำหนดการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จในปี 2566

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ