MONEY

โดย กองบรรณาธิการ M2F

21 มีนาคม 2564 : 15:59 น.

รองนายกฯย้ำความสำเร็จด้านการค้าขายระหว่างไทย-จีนต้ออาศัยภาคเอกชนเป็นตัวกลางเชื่อมหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ จัดพิธีเปิดตัวบริษัท ยี้ฟาน อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ลงนามในสัญญาความร่วมมือระหว่าง ไทย-จีน มีผู้เข้าร่วม อาทิ นายหวัง เจียน กรรมการผู้จัดการ ผู้แทนจากประเทศจีน นายจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธาน บริษัท คาราบาว กรุ๊ป พร้อมตัวแทนจากบริษัทขนาดใหญ่ของจีน ประจำประเทศไทยเข้าร่วม โดยบรรยากาศเป็นอย่างชื่นมื่น บริษัท ยี้ฟาน ฯ ตั้งเป้าทำธุรกิจขนส่งทั่วโลกครบวงจร โดยเป้าหมายในปีแรกให้บริการทั้งหมด 1 แสนตู้คอนเทนเนอร์ในปีแรก และภายใน 5 ปี ตั้งเป้าจะให้บริการได้มากกว่า 1 แสนตู้ต่อปี ณ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์

นายวิษณุ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนมาจากภาครัฐบาล ก็ทำให้นึกถึงเมื่อปีที่แล้วมีสถานการณ์ โควิด- 19 เกิดขึ้นทั่วโลกระหว่างคนต่อคนก็ยังต้องเว้นระยะห่าง เช่นเดียวกับการติดต่อระหว่างประเทศ ทำให้ไทยและจีนก็ต้องเว้นระยะห่างในการทำมาค้าขาย แต่ขณะนี้สถานการณ์ได้ฟื้นดีขึ้นกว่าเดิมเป็นมาก การค้า การติดต่อ การคมนาคม และการขนส่งก็เริ่มกลับมาอย่างเดิมและนับวันก็จะยิ่งดีขึ้น โดยทราบว่าจะมีวัคซีนพาสปอร์ตระหว่างไทย-จีน และการติดต่อความสัมพันธ์การค้าขายกับจีนก็น่าจะกระชับมิตรแน่นยิ่งกว่าเดิม

ทั้งนี้ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่อาศัยรัฐบาลอย่างเดียว เพราะทางรัฐบาลมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนด้วยกัน โดยเฉพาะถ้ามีหน่วยงานกลางเป็นตัวเชื่อมคล้ายสะพาน การค้าขายก็จะกลับคืนได้อย่างเดิม จึงนับเป็นการดีอย่างยิ่งและโชคดีที่เรามีสภาวัฒนธรรมไทย-จีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ซึ่งตั้งมานานมากเป็นตัวกลางจับคู่ระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจีนให้กลับมาทำงานค้าขายติดต่อกัน เป็นการทลายสิ่งที่เรียกว่า Economic Distancing อย่างไรก็ตามการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีนก็มีความสำคัญ ซึ่งบริษัทของนายจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็มีรถและตู้ขนส่งเพียงพอทำให้การค้าขายและการขนส่งดำเนินไปได้

นายวิษณุ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้ไปเล่าให้รัฐบาลฟัง เพื่อส่งเสริมให้มีการจับคู่ในลักษณะนี้ และเรื่องอื่นๆ โดยนายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ บกกับตนว่าสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน ที่ออกมาและกำลังจะออกมาถูกจับจองสั่งซื้อ และเตรียมขนส่งไปสู่จีนหมดแล้ว ทั้งนี้ ตนก็ขอแสดงความยินดีที่จะมีการลงนามความร่วมมือระหว่างไทย-จีน ตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างที่ดีน่าชมเชย ก็ขออวยพรให้กิจการนี้ประสบความสำเร็จเพื่อประโยชน์แก่เศรษฐกิจไทยและจีนและความสัมพันธ์ไทย-จีน ตลอดไป

นายพินิจ ให้สัมภาษณ์ ว่า ในการลงนามเปิดตัวบริษัทในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจในยุคโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการขนส่งสินค้า การนำเข้าส่งออกในพื้นทีอาเซียน และพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมาก ซึ่งการค้าระหว่างจีนและไทยยังดำเนินต่อไป แม้สินค้าบางอย่างจะมียอดการส่งออกลงลด ขณะที่สินค้าบางตัวได้เพิ่มขึ้น เช่น ทุเรียน ที่ปีนี้ยอดสั่งซื้อสั่งจองหมดแล้ว ราคารับซื้อที่หน้าสวนกิโลกรัมละ 200 บาท จำเป็นต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนถ่ายทุเรียน หลายหมื่นตู้ โดยยังมีสินค้าประเภทอื่นด้วย ทำให้การขนถ่ายสินค้าระหว่างไทย-จีน ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม การเปิดบริษัทร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ในการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์นี้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมาก เพราะเมื่อมีนักธุรกิจกล้ามาลงทุนในด้านนี้ ก็ต้องมองว่ามีช่องทางที่จะไปได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีการนำเข้าส่งออกจำนวนมาก ทำให้ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และก็เป็นนิมิตหมายอันดี ที่บริษัทของจีนมีตู้คอนเทนเนอร์เพียงพอที่จะมาช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ เมื่อตนมองแล้ว ก็เห็นว่ากลุ่มคนไทยทำธุรกิจขนส่งสินค้าอยู่แล้ว ตนจึงสนับสนุนในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ โดยการร่วมทุนครั้งนี้ เป็นผลพวงมาจากการจัดงานยางพาราที่ จ.บึงกาฬ ที่นายวิษณุ เคยไปเปิดงาน มีความมั่นใจว่าการทำธุรกิจครั้งนี้ เป็นไปได้ด้วยดี

นายพินิจ กล่าวว่า นายวิษณุได้สนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนมาตลอด ทั้งวัฒนธรรม การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการศึกษา โดยการลงนามในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการลงทุนทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน จะทำให้การค้าระหว่างไทย-จีน มีตัวเลขเพิ่มขึ้น ซึ่งในวันนี้ มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนกว่า 30 บริษัท ที่อยู่ในไทย มาร่วมงานด้วย เช่น หัวเว่ย และ MG นอกจากนี้ บริษัทของไทย อย่างบริษัท คาราบาว กรุ๊ป ก็มาติดต่อขอให้ช่วยขนถ่ายสินค้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าต่อไปในอนาคต

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ