"กระติก-แซน" เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองนนทบุรี ก่อนเปิดแถลงนาที "แตงโม นิดา" พลัดตกเรือ เผยได้วนเรือค้นหาแต่ไม่พบ ยืนยันเป็นการไปเที่ยวในหมู่เพื่อน ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 65 กระติก- อิจศรินทร์ จุฆาสุขสวิสด ผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ และ วิศาพัช มโนมัยรัตน์ แซน หนึ่งในผู้ที่นั่งอยู่บนเรือในคืนวันเกิดเหตุ แตงโมพลัดตกเรือ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ สภ.เมืองนนทบุรี หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

กระติก เผยไทม์ไลน์วันเกิดเหตุว่า ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ได้ชวนไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวกับแตงโม รู้จักกับปออยู่แล้ว กระติกจึงชวน แตงโม และ แซนมาด้วย พอเป็นผู้หญิง 2 คน ปอ จึงชวน โรเบิร์ต และ จ๊อบ มาด้วย เพราะเกรงว่าในเรือจะมีแต่ผู้หญิงและมีปอเป็นผู้ชายคนเดียว

นัดกันประมาณ 16.00 น. แต่ กระติกกับแตงโมไปถึงอู่เรือช้า ปอ ได้เอาเรือไปเติมน้ำมันก่อนจะกลับมารับในเวลาประมาณ 18.30 น. จากนั้นจึงนั่งเรือไปรับประทานอาหารจนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น.เตรียมจะออกจากร้านอาหารเพื่อไปชมบรรยากาศ ก่อนออกจากร้านอาหาร กระติกได้ไปเข้าห้องน้ำและบอกแตงโมให้เข้าห้องน้ำ แต่แตงโมไม่เข้าเพราะบอกว่าไม่ปวด

จากนั้น ออกมาจากร้านอาหารไปแวะถ่ายรูปที่สะพานพระราม 8 และทุกคนก็นั่งพักผ่อนตามอัธยาศัย แตงโมบ่นว่าปวดปัสสาวะ แล้วก็เดินไปท้ายเรือ แต่ตอนแตงโมเดินไป กระติกไม่เห็นเพราะมัวสนใจแต่วิวและนั่งหันไปข้างหน้าเรือ

ขณะที่ แซน เผยว่า ตอนนั้นนั่งอยู่ท้ายเรือในท่านอน โดยยื่นขาออกมาที่ท้ายเรือ แต่ไม่ทันได้มองว่าแตงโมมานั่งปัสสาวะอยู่ท้ายเรือ รู้สึกอีกทีก็ตอนที่แตงโมใช้มือ 2 ข้างจับขาทั้ง2ข้างไว้เพื่อจะนั่งปัสสาวะ หันหน้าเข้าหาแซน หันหลังไปท้ายเรือ ก็ไม่ได้สนใจและเล่นโทรศัพท์ต่อ แต่จังหวะนั้น แตงโมเกิดพลัดตกน้ำ ขณะที่เรือวิ่งไปข้างหน้าซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

เมื่อรู้ว่าแตงโมตกน้ำ ก็รีบตะโกนบอกกระติก จากนั้นทุกคนก็ได้หันเรือกลับไปตามหาแตงโม พร้อมโทรขอความช่วยเหลือ แต่หาไม่พบ

กระติก กล่าวว่า ที่แตงโมไปปัสสาวะแล้วไม่ได้บอกใครเพราะมีผู้ชายอยู่ด้วย ยืนยันว่าชุดบอดี้สูทสามารถปัสสาวะได้โดยไม่ต้องถอด เพราะเราสามารถแหวกข้างได้ เรือแล่นแบบธรรมดา ไม่ได้ขับฉวัดเฉวียน ส่วนการที่ไม่ได้ใส่ชูชีพกัน เพราะเวลาถ่ายรูปต้องถอดชูชีพเข้าออกไม่สะดวก

นอกจากนี้กระติกยังยืนยันด้วยว่า การมาขึ้นเรือในครั้งนี้เป็นการเที่ยวในหมู่เพื่อน ไม่ใช่การรับงาน ไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีการทะเลาะกันบนเรือ ส่วนที่ไม่ได้โทรไปหาคุณแม่แตงโมหลังเกิดเหตุ เพราะส่วนตัวไม่สนิทกับคุณแม่ แต่สนิทกับทางคุณพ่อ ซึ่งคุณแม่อยู่คนละบ้านกับแตงโม และกลัวว่าคุณแม่หลับอยู่ คิดไม่ถึงมาก่อนเลยไม่ได้โทร