THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

15 ธันวาคม 2561 : 19:30 น.

‘บิ๊กโจ๊ก’เผยจับมือปาระเบิดใส่เวที กปปส.ช่วงชุมนุมทางการเมือง หลังหนีไปกบดานชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทนอยู่อย่างลำบากทนกดดันไม่ไหว

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมนายกฤษดา ไชยแค อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาขว้างระเบิดใส่เวที กปปส.ว่า  เป็นคดีปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.เมื่อปี 2557 ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย โดยติดตามจับกุมได้แล้ว 3 ราย เหลือเพียงนายกฤษดาที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งล่าสุดนายกฤษดาได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่

เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ก่อเหตุปาระเบิดมาแล้ว 2 ครั้ง คือ 1. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้า รพ.ราชวิถี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย และ 2. บริเวณถนนบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.

“หลังก่อเหตุผู้ต้องหายอมรับว่า ได้หลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ปี 2557 โดยมีบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เดือนละ 30,000 บาท โดยไม่ต้องประกอบอาชีพใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ได้ประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการกดดัน รวมทั้งช่วงหลังเงินที่ส่งมาให้นายกฤษฎาเริ่มเหลือน้อยไม่พอค่าใช้จ่าย จึงเดินทางเข้ามอบตัวและขณะนี้ได้นำตัวฝากขังที่ศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อเหตุดังกล่าวนายกฤษฎาสังกัดกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับ กปปส. หรือถูกจ้างวานมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ ได้รวมกลุ่มขึ้นมากันเองและเก็บรวบรวมอาวุธต่างๆ ไว้กับตัวเองเพื่อใช้ก่อเหตุ และมีส่วนร่วมในการก่อเหตุอื่นๆ รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง นอกจากนี้ ในส่วนค่าหัว 700,000 บาทนั้นเป็นรางวัลนำจับของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ทราบจากหน่วยงานใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจผสานกำลังร่วมกับหน่วยงานจากประเทศกัมพูชา ติดตามจับกุมนายกฤษดา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, กระทำให้เกิดการระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น, มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและให้ใช้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และฝ่าฝืนประกาศ ข้อกำหนดที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดออกนอกเคหสถาน ตาม พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 โดยจับกุมได้ที่ชายแดนไทยใกล้กับด่าน ต.คลองลึก จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ