มหาดไทยจัดสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้ตรวจราชการหน่วยงานในสังกัด เน้นถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. นายสนิท ขาวสอาด หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนา โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทย เพื่อป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในหน่วยงานภาครัฐเชิงรุก รวมทั้งชเสริมสร้างเครือข่ายในการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จัดโดย สำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน

นายสนิท ได้มอบแนวทางการดำเนินงาน พร้อมทั้งปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ทิศทางการตรวจราชการเพื่อขับเคลื่อนมหาดไทย ยุค 4.0" ว่า การตรวจราชการนับเป็นกลไกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของการบริหารราชการแผ่นดิน ในการติดตามความก้าวหน้า รับทราบปัญหาอุปสรรค และยังเป็นการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล รวมทั้ง ยังเป็นการควบคุม กำกับดูแล และตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริต และประพฤติมิชอบของหน่วยงานภาครัฐ จึงต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พร้อมรับนโยบายรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ในระดับภาค โดยในปีงบประมาณ 2562 ได้มีการจัดสรรงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะก่อให้เกิดการบูรณาการภารกิจและงบประมาณครอบคลุมทั้งงานมิตินโยบาย งานมิติพื้นที่ และงานมิติหน่วยงาน ส่งผลให้มีงบประมาณลงไปในระดับพื้นที่มากขึ้น กระทรวงมหาดไทยในฐานะที่กำกับดูแล และอำนวยการให้การบริหารงานการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด จึงจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างองค์ความรู้ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนขององค์กร

หัวหน้าผู้ตรวจราชการฯ กล่าวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจราชการ โดยให้ยึด แนวทางการปฏิบัติในการถวายงาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีพระราโชบายให้ช่วยเหลือประชาชน โดยมี แนวทางการปฏิบัติที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.ให้ประชาชนที่อยู่ในภาวะทุกข์ร้อน กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว 2.ในการทำงานทุกงานให้มีแผนเผชิญเหตุ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนที่จะเป็นอุปสรรคให้ เกิดความเสียหาย และมีแผนสำรองสำหรับทางออกทุกกรณี และ 3.ให้น้อมนำกระแสพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแนวทางในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

นายสนิท ยังได้เน้นย้ำการประพฤติตนของบุคลากรฯ ให้มีความเหมาะสม ตามหลักคุณธรรมจริยธรรม ระเบียบวินัย และกฎหมาย โดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติหน้าที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชน ด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง เสมอภาค โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน