THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

25 ธันวาคม 2561 : 15:58 น.

สนช.ผ่านกฎหมาย กระท่อม-กัญชา เพื่อการแพทย์ ไฟเขียว ป.ป.ส.ตีเส้นปลูกกัญชา-จัดโซนเคี้ยวกระท่อม

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธานฯ พิจารณาเสร็จแล้ว 

ทั้งนี้ สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อาทิ การพิจารณาปลดล็อกกัญชาและกระท่อมออกจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 ให้สามารถนำไปศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสามารถนำไปใช้รักษาโรคภายใต้การควบคุมและดูแลทางการแพทย์ได้  โดยการจะผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้นั้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎกระทรวงกำหนด และความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ หากมีปริมาณการครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม ให้สันนิษฐานว่า มีไว้เพื่อจำหน่าย

สำหรับ หน่วยงานที่จะได้รับอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชาได้นั้นประกอบด้วย 1.หน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หรือหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามแก้ปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย  2.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

3.สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัยด้านการแพทย์ 4.ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจชุมชน  5.ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6.ผู้ป่วยที่เดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดติดตัวเพื่อใช้รักษาโรคเฉพาะตัว และ7.ผู้ขออนุญาตอื่นที่รมว.สาธารณสุขเห็นชอบ

นอกจากนี้ ยังกำหนดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ให้ความเห็นชอบการกำหนดโซนนิ่งในการปลูกกัญชา หรือผลิตทดสอบ เสพ หรือครอบครองในปริมาณที่กำหนด รวมถึงมีอำนาจกำหนดให้ท้องที่ใดเป็นพื้นที่เสพกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

ส่วนบทลงโทษ หากครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยมีปริมาณกัญชาไม่ถึง 10 กิโลกรัม มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ครอบครองเกิน 10 กิโลกรัม จำคุก  1- 15 ปี ปรับ 100,000 -1,500,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าว ยังกำหนดว่า เมื่อร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้ว 3 ปี ให้คณะกรมการควบคุมยาเสพติด ประเมินผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการผลิต นำเข้าส่งออกจำหน่าย หรือครอบครองกัญชาทุก  6 เดือนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สมาชิกสนช.ได้อภิปรายกันจนครบทุกมาตราแล้ว ที่ประชุมสนช.จึงได้ลงมติให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ติยาเสพติดให้โทษด้วยคะแนน 166 ต่อ 0 เสียง และงดออกเสียง 13 เสียง ให้กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย โดยนายสมชาย ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกสนช.ที่พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ จากสนช.และครม. มอบแก่ประชาชน เพื่อให้สามารถนำกัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งพิจารณาออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ