ตลาดหุ้นสหรัฐตกหนักรับคริสต์มาส ฉุดตลาดญี่ปุ่นร่วงวันเดียว 1‚000 จุด กดดันหุ้นไทยลบ 34 จุด เงินบาทแข็งค่าสุด 2 เดือน
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว ปรับตัวลง 5% หรือ 1,010.45 จุด ปิดตลาดต่ำกว่า 20‚000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน และกลายเป็นดัชนีหุ้นในเอเชียรายล่าสุดที่เข้าสู่ภาวะตลาดหมี หรือราคาลดลงถึง 20% นับจากราคาปิดสูงสุดครั้งล่าสุด หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบหนักในคืนก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจ และปัจจัยการเมืองในประเทศ
ทั้งนี้ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดวันที่ 24 ธ.ค. ลบไปถึง 653.17 จุด หรือ 2.91% มาอยู่ที่ 21,792.20 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดลบ 2.71% อยู่ที่ 2,351.10 จุด และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ปิดลบ 2.21% อยู่ที่ 6,192.92 จุด นับเป็นการซื้อขายวันคริสต์มาสอีฟที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นสหรัฐ และการซื้อขายของตลาดสหรัฐตลอดเดือน ธ.ค. ยังจ่อทำสถิติเป็นเดือนธันวาทมิฬที่แย่ที่สุดนับแต่วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำปี 1931 อีกด้วย
สำหรับหุ้นไทยลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนกังวลเศรษฐกิจโลกจะถดถอย กดราคาน้ำมันดิ่ง ฉุดหุ้นไทยปิด 1,556.65 จุด ลดลง 34.64 จุด หรือ 2.18% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 33,018.22 ล้านบาท ระหว่างวันลงไปต่ำสุดอยู่ที่ 1,555 จุด ซึ่งหุ้นไทยปิดตลาดวันนี้ถือว่าทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี 7 เดือน
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผอ.ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงและมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ โดยจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,590 จุด ไปถึงสิ้นปีนี้ โดยปัจจัยกดดันยังหนีไม่พ้นปัญหาของสหรัฐ ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อีกครั้ง รวมถึงความกังวลจีดีพีสหรัฐที่คาดว่าจะขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 4 และจะชะลอตัวลงมากขึ้นในปีหน้าจากผลกระทบของสงครามการค้า
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ดัชนีลดลงจากความกังวลว่าสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นทั่วโลก และกดดันให้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง ล่าสุดค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าสูงระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน