THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

01 พฤษภาคม 2562 : 18:08 น.

ถอดรหัส รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว เจ้าของรางวัล SHA AWARD ยกหัวใจสำคัญ HA-SHA สร้างสมดุลงานจากฐานราก ดึงมิติจิตตปัญญาควบคู่การพัฒนา สร้างคุณภาพงานให้เกิดความยั่งยืน

ที่รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน ผู้บริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) ลงพื้นที่รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว ที่ได้รับการรับรองกระบวนการคุณภาพมาตรฐานHA และบูรณาการมิติจิตวิญญาณในการพัฒนาคุณภาพ จนได้รับรางวัล SHA Award ในงานประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ 20 ของสถาบัน

นพ.กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผอ.สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สรพ.ทำงานด้านการพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล มาเกือบ 20 ปี แต่หลังจากทำมาได้ 10 ปี มีโจทย์ใหญ่อยู่ 2ส่วน คือ ส่วนแรก เมื่อพัฒนางานไปเรื่อยๆ บุคลากรต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานด้านคุณภาพ ส่วนที่สอง เมื่อทำงานด้านการพัฒนาคุณภาพแล้ว ประชาชนได้รับการบริการอย่างมีคุณภาพ ตามที่เราคาดหวังจริงหรือไม่ ดังนั้นทั้ง 2 ส่วน ทำให้เกิดแนวคิดว่า การพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลด้านวิชาการอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องหันมาดูมิติทางด้านจิตใจของบุคลากรและผู้ที่มารับบริการด้วย

ทั้งนี้ จึงเป็นที่มาของโครงการ Spiritual Healthcare Appreciation หรือ SHA ซึ่งโครงการดังกล่าวทำการศึกษามากว่า 10 ปี จนกระทั่งปี 2562 ได้สื่อสารให้โรงพยาบาลที่สนใจทดลองนำไปใช้ และมีการฝึกอบรมให้แก่โรงพยาบาลนำร่องไปทดลองปฏิบัติ พร้อมส่งทีมสำรวจเข้าไปเยี่ยมประเมินผล จนทำให้งานประชุมวิชาการประจำปีครั้งที่ 20 HA National FORUM ของ สรพ.ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ มีโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัล SHA AWARD จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ รพ.เซ็นต์หลุยส์,รพ.เสาไห้เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา,รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย,รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า,รพ.สมเด็จพระยุพราชจอมบึง และรพ.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน

นพ.กิตตินันท์ กล่าวว่า รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว มีความโดดเด่นในมิติทางด้าน SHA ในหลายส่วน หลังจากโรงพยาบาลนำแนวคิด SHA ไปใช้ ส่งผลให้บุคคลากรไวต่อการรับรู้ความต้องการของผู้ป่วย มีความร่วมมือที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยในหลายรูปแบบ อาทิ จัดกิจกรรมต่างๆในชุมชน เปิดให้เยาวชนเข้ามาเรียนรู้ วิธีการทำงานของหมอและพยาบาล

นอกจากนี้ แนวคิดดังกล่าวยังช่วยให้พัฒนาด้านการดูแลผู้ป่วยในรูปแบบใหม่ๆ เช่น การทำสติบำบัด เป็นการพัฒนาบุคคลาการทางการแพทย์และผู้ป่วยไปพร้อมๆกัน และยังก่อให้เกิดการทำงานด้านจิตอาสา การร่วมมือกันทำงานจากหลายภาคส่วนจัดกิจกรรมต่าง ๆ และติดตามผู้ป่วยในช่วงวันหยุด ที่สำคัญโรงพยาบาลแห่งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งเป็นรพ.สมเด็จพระยุพราชปัว นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชปัวยังได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2561 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผอ.พร.สมเด็จพระยุพราชปัว จ.น่าน กล่าวว่า รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว แรกเริ่มได้นำแนวคิด HA มาพัฒนาด้านคุณภาพของโรงพยาบาลตั้งแต่ปี 2546 และหลังจากได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพ HA พบว่า เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลเกิดความเครียดในการทำงาน เนื่องจากมีภาระงานที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งตัวมาตรฐาน HA มีความละเอียดอ่อนในหลายมิติ ทำให้การพัฒนามาตรฐานที่เราตั้งไว้ไม่ค่อยยั่งยืน

จากนั้น ในปี 2549 จึงเริ่มนำแนวคิดทางด้านจิตตปัญญาหรือ SHA มาปรับใช้ โดยเริ่มพัฒนาคนจากภายใน ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างมีความสุขก่อนแล้วค่อยมาพัฒนางาน กระบวนการนี้เราพัฒนาคนให้เข้าใจเรื่องของการทำงานโดยอาศัยพลังกลุ่ม สร้างความเข้าใจในตนเอง เพื่อนร่วมงาน และผู้มารับบริการ เมื่อเข้าใจตรงนี้พอเกิดปัญหาในการทำงาน จะมีการสื่อสารที่ดีขึ้น

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า มีการใช้กระบวนการ “สุนทรียสนทนา” หรือ Dialogue เป็นตัวจัดกิจกรรม หรือเมื่อมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น เช่น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้เข้ารับบริการได้ ทางทีมกระบวนกรจะทำหน้าที่สื่อสารแทนเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นเหมือนด่านหน้าโรงพยาบาล ภายหลังจากใช้กระบวนการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ที่ต่อต้านกลับให้การยอมรับ จะเห็นได้ว่าในปี 2561 ข้อร้องเรียนต่างๆของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างราบรื่น ส่วนผู้ที่เคยมีปัญหากับทางโรงพยาบาลกลายมาเป็นพันธมิตร การบริการมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตาม การได้รับรับรางวัล SHA AWARD จากสรพ. เป็นจุดที่กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดรับทราบว่า เราเดินมาถูกทางแล้ว จากนั้นเราจะพัฒนาและต่อยอดโดยการขยายไปสู่กลุ่มผู้ป่วยต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ในปี 2562 เราวางแผนต่อยอด โดยการนำ SHA เข้าไปสู่กลุ่มโรงเรียนโดยเน้นในระดับปฐมวัย เนื่องจากเห็นว่าถ้าเราสร้างเด็กในวัยนี้ให้มีความมั่นคงมี IQ และ EQ ที่ดี เด็กจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี

นอกจากนี้จะนำ SHA เข้าไปสู่กลุ่มผู้นำท้องถิ่น กลุ่มแพทย์จบใหม่ เครือข่ายของโรงพยาบาล และกลุ่มผู้ป่วย โดยเริ่มเข้าถึงตัวผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เช่น เราพัฒนาเรื่องของการนำสติบำบัดไปสู่กลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหา อาทิ กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ที่มีการควบคุมยาก กลุ่มผู้ป่วยติดสุราเรื้อรัง เป็นต้น เรานำสติบำบัดผนวกกับจิตตปัญญาที่พัฒนาในองค์กร มาสู่การพัฒนาเครือข่าย และขยายสู่ระบบการดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหา เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพที่เชื่อมโยงทั้งระบบ

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ