เปิด 3 เงื่อนไขประชาธิปัตย์ ต้องได้ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รมช. ผิดจากนี้ไม่ร่วมรัฐบาล พร้อมเตรียมส่ง
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาเรื่องการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่า ทุกอย่างจบหมดแล้ว เพียงแต่รอพรรคพลังประชารัฐยืนยันมาอีกครั้งว่า จะยินยอมตามข้อตกลงเดิมหรือไม่ ถ้าตกลงทางพรรคประชาธิปัตย์จะได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารและส.ส.เพื่อมีมติว่า จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งเงื่อนไขการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ต้องรับเงื่อนไข 3 ข้อใหญ่ซึ่งเป็นหลักการสำคัญคือ 1.ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เป็นปัญหา ซึ่งรายละเอียดต้องมากำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาล
2.ต้องนำนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องประกันรายได้พืชผลทางการเกษตรมากำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาล และ 3.ต้องจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีให้พรรคประชาธิปัตย์สอดคล้องกับการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวกับการผลักดันเรื่องการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร การแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจากันตามกรอบเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว
สำหรับ ผลจากการเจรจานั้น ทางแกนนำพลังประชารัฐที่นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ตกลงจะให้ให้โควต้ารัฐมนตรีจำนวน 8 ตำแหน่ง 7 คน คือให้หัวหน้าพรรคเป็นรองนายกฯควบตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ 3 กระทรวง ประกอบด้วย รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.พาณิชย์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในขณะที่ตำแหน่งรมช.นั้นมี 4 กระทรวง ประกอบด้วย รมช.มหาดไทย รมช.คมนาคม รมช.ศึกษาธิการ และ รมช.สาธารณสุข
“โควต้ารัฐมนตรีทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ตามนโยบายของพรรคทั้งเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งพรรคต้องการบริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อแก้ปัญหาราคาพืชผลทางด้านการเกษตรตกต่ำให้ได้โดยเร็ว จึงต้องดำเนินควบคู่ไปกับกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดทั้งเรื่องของราคาและการหาตลาดใหม่ๆ ดังนั้นจะต้องบริหาร 2 กระทรวงดังกล่าวควบคู่กันไป เพราะหากแยกบริหารคนละพรรค อาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้” แหล่งข่าวจากพรรคประธิปัตย์ระบุ
สำหรับ กระทรวงพัฒนาสังคมฯและ 4 รมช.ก็สอดคล้องกับนโยบายพรรคที่จะแก้จนสร้างคนสร้างชาติ ดังนั้นหากพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนใจขอเกลี่ยโควต้ากันใหม่พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ยินยอม เพราะถือว่าได้ตกลงกันแล้วและกว่าจะลงตัวตามนี้ก็มีการคุยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากันมาตั้งหลายรอบแล้ว หากจะมารื้ออีกคงไม่ถูกต้องไม่เป็นไปตามข้อตกลง
“พรรคจะยึดตามข้อตกลงเดิม ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐยืนตามนี้ ก็ต้องร่วมกันแถลงกับพรรคร่วมให้ชัดเจนก่อนการโหวตนายกฯในวันที่5 มิ.ย. ซึ่งหากผิดไปจากนี้พรรคจะไม่ร่วมรัฐบาล”แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
ขณะเดียวกัน ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมทางออกไว้แล้วหากพรรคพลังประชารัฐไม่ยินยอมตามเงื่อนไขเดิม โดยพรรคจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมการบริหารพรรคและส.ส.จะประชุมเพื่อพิจารณา และมีมติอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 มิ.ย.ก่อนจะลงมติโหวตนายกฯในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ได้ยืนยันกับทางพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นไปตามข้อตกลงเดิม และจะเรียกแกนนำพรรคพลังประชารัฐมาทำความเข้าใจเพื่อยุติปัญหาต่างๆ ภายหลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์ในเย็นวันนี้