โฆษกรัฐบาลประกาศ 'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม' เอาจริงเร่งแก้หนี้นอกระบบ โชว์ผลงานคืนโฉนดที่ดินชาวบ้านกว่าหมื่นฉบับ

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่เป็นปัญหาหมักหมมในประเทศไทยมาช้านาน โดยได้สั่งการให้บูรณาการทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ร่วมกันแก้ปัญหานี้อย่างครอบคลุมทั้ง 5 มิติ มาตั้งแต่ปี 2559

นางนฤมล กล่าวว่า ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืนมี 5 มิติ ได้แก่ มิติที่ 1 การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย จากข้อมูลเมื่อสิ้นเดือนก.ค. 2562 พบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 5,221 ราย ซึ่งเป็นยอดสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 มิติที่ 2 เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบผ่านทาง “พิโกไฟแนนซ์” กิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกิจการธนาคาร ถือเป็นกิจการที่ต้องขออนุญาตต่อรมว.คลัง นับเป็นโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งแต่เดือนธ.ค.2559 – กรกฎาคม 2562 รัฐบาลให้ไปอนุญาตไปแล้ว 667 ราย ใน 71 จังหวัด เปิดดำเนินการแล้ว 538 ราย ใน 67 จังหวัด และมีสินเชื่ออนุมัติสะสม 97,644 บัญชี รวม 2,511.42 ล้านบาท เฉลี่ย 25,72.23 บาท/บัญชี

ทั้งนี้ มิติที่ 3 ลดภาระหนี้นอกระบบโดยไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ตั้งแต่ปี 2560 – เดือนมี.ค.2562 คณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจำจังหวัด มีเรื่องรับเข้า 5,590 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 2,374 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 42.47 ของเรื่องรับเข้า รวมทั้ง คืนโฉนดที่ดินให้ประชาชน 11,596 ฉบับ 30,000 ไร่ มูลค่า 15,100 ล้านบาท

สำหรับ มิติที่ 4 เพิ่มศักยภาพของลูกหนี้นอกระบบ โดยให้ความรู้ทางการเงิน ฝึกอาชีพตามบริบทของพื้นที่ และสร้างโอกาสมีงานทำ และมิติที่ 5 สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรการเงินชุมชนที่เกี่ยวข้อง โดยตรวจชุมชน สร้างโมเดลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบโดยใช้กลไกชุมชน ขยายผลกับชุมชนกว่า 180 แห่ง

โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อว่า สรุปผลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย จากฐานข้อมูลลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 มีจำนวน 1.26 ล้านราย รวมหนี้นอกระบบ 68,000 ล้านบาท ติดตามตัวได้ 68% คิดเป็น 853,696 ราย รวม 47,089.97 ล้านบาท แบ่งเป็น ประสงค์ให้ช่วยเหลือ 66% คิดเป็น 565,587 ราย ส่วนไม่ประสงค์ให้ช่วยเหลือ 34% คิดเป็น 285,138 ราย ทั้งนี้ 84% ได้รับการช่วยเหลือแล้ว คิดเป็น 474,849 ราย ด้วยการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ช่วยเหลือด้านสินเชื่อ ฟื้นฟูศักยภาพการหารายได้ พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

“ รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ครบทั้ง 5 มิติต่อไป เพื่อดูแล ช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมกับลูกหนี้ที่ถูกเอาเปรียบด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นส่วนสำคัญของการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน” นางนฤมลกล่าว