รพ.สนามธรรมศาสตร์ผนึกโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ” Food For Fightersใช้ “ปิ่นโต” ในการส่งอาหารให้บุคลากรทางการแพทย์เพื่อลดขยะพลาสติก พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายมอบอาหารให้ประชาชนที่เดือดร้อนด้วย
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.น.ส.พันชนะ วัฒนเสถีย เจ้าของร้านอาหาร “เป็นลาว” ผู้ก่อตั้งโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ” Food For Fighters เปิดเผยว่า ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะรวบรวมร้านอาหารที่เดือดร้อนจำนวน 30 ร้าน ระดมทุนทำอาหารส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ จนกระทั่งได้เพิ่มเป็นเป็นเกือบ 100 ร้าน จากที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะส่งอาหารให้กับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่เริ่มต้นจาก 3 แห่ง ได้กลายเป็นเกือบ 20 โรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศไทย ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนได้รับยอดเงินระดมทุน 1,482,018 บาท ส่งอาหารไปประมาณ 3 หมื่นกล่อง
ทั้งนี้ จากน้ำใจจากของทุกคนทั้งผ่านทุนทรัพย์ วัตถุดิบ และถ้อยคำกำลังใจ ถือเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะดำเนินโครงการนี้ต่อ เพราะโควิด-19 จะยังคงอยู่กับเราไปอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่ยังไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า โรคระบาดนี้จะหายไปจากประเทศของเราจริง ๆ เมื่อสถานการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติ เราจึงมีแนวคิดในการขยายความช่วยเหลือต่อไปยังกลุ่มผู้ที่ขาดแคลนอาหาร ผู้คนที่ตกงานและไม่มีรายได้จากวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม คุณหมอและพยาบาลตลอดจนบุคลากรทางการแพทย์ที่เราจัดส่งข้าวกล่องให้เป็นประจำมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งมอบ “กำลังใจที่กินได้” นี้ต่อไปยังผู้ที่ขาดแคลนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยเราจะดำเนินโครงการต่อในระยะที่ 2 อีก 1 เดือน โดยไม่จำกัดแค่ในพื้นที่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น แต่เราจะส่งไปให้ถึงผู้ที่ขาดแคลนทั่วประเทศ โดยครั้งนี้ตั้งใจจะเปิดระดมทุนจำนวน 2,000,000 บาท เพื่อที่จะส่งข้าวกล่องไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ประสานงานไว้แล้ว รวมทั้งโรงพยาบาลที่ยังมีผู้ป่วยอยู่
น.ส.พันชนะ กล่าวว่า โรงพยาบาลที่ประสานงานไว้แล้วประกอบด้วย รพ.สนามธรรมศาสตร์ (D-Luxx) รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ รพ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส รพ.กัลยาณิวัฒนาการุณย์ จ.นราธิวาส รพ.บันนังสตา จ.ยะลา และ รพ.ยะรัง จ.ปัตตานี
“ความต่อเนื่องในการดำเนินโครงการครั้งนี้ เราได้รับความร่วมมือจาก Next บริษัทน้องใหม่ที่มีหัวใจเพื่อสังคม ในเครือของ Silver Voyage Club ในการเป็นผู้กระจายอาหารให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการของเราเกือบ 100 ร้าน จะยังคงเป็นพ่อครัว แม่ครัวที่ปรุงอาหารแสนอร่อยส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ขาดแคลน
นอกจากนี้ หลังจากที่เราได้เริ่มโครงการแรกไปแล้ว เราพบว่าปัญหากล่องพลาสติกเป็นปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไข เนื่องจากการผลิตข้าวกล่องนี้ใช้กล่องพลาสติกจำนวนมากและสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อโลกของเราต่อไป ครั้งนี้เราจะ “ผูกปิ่นโต” ส่งข้าวเพื่อลดปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อม และผู้ที่ได้รับยังจะสามารถนำปิ่นโตกลับไปใช้งานได้ต่อไปด้วย โดยขณะนี้ได้เริ่มที่ รพ.สนามธรรมศาสตร์เป็นแห่งแรก และขยายไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้จัดการ รพ.สนามธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการรณรงค์ใช้ “ปิ่นโต” เพื่อลดขยะพลาสติกว่า ได้ขอความร่วมมือจากบุคลากรของโรงพยาบาลฯ ในการร่วมมือกันลดขยะพลาสติก พร้อมทั้งได้ปรึกษากับโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ” Food for Fighters ที่เป็นเครือข่ายผู้ประกอบการร้านอาหารที่ส่งอาหารกลางวันให้แก่บุคลากร รพ.สนามธรรมศาสตร์ ในเปลี่ยนจากใส่อาหารในกล่องพลาสติกครั้งเดียวทิ้ง มาเป็นส่งในปิ่นโต และได้ดำเนินการสำเร็จแล้ว 100% ที่พยาบาลสนามธรรมศาสตร์ เราเริ่มจากให้ Food for Fighters มาส่งปิ่นโตอาหาร ให้แก่บุคลากรโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ แลกกับปิ่นโตเปล่าของม.ธรรมศาสตร์ที่เตรียมไว้
จากนั้น Food for Fighters ก็จะเอาปิ่นโตของมหาวิทยาลัยใส่อาหารมาส่งในวันพรุ่งนี้ ส่วนปิ่นโตที่โรงพยาบาลสนามได้รับวันนี้ เมื่อรับประทานเสร็จก็จะล้าง และแลกกับปิ่นโตบรรจุอาหารที่จะมาส่งวันพรุ่งนี้ และทำแบบนี้ไปทุกวันครับ เพียงเท่านี้ ขยะมากมายจากกล่องอาหารพลาสติก ถุงพลาสติก ถุงแกง หายไปในทันที ช้อนส้อมพลาสติก ตะเกียบพลาสติกก็ไม่มีอีกต่อไป
สำหรับ ผู้สนับสนุนร่วมมอบ “ปิ่นโต” ให้แก่โครงการเพื่อใช้ในกิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้ อาทิ พระครูรัตนโสภณ (สุรัฐ สิริปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดนายโรง กทม. มอบปิ่นโตให้ 118 ชุด ผู้ที่สนใจสนับสนุนโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ” Food for Fighters สามารถร่วมบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชี นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร เลขที่บัญชี 003- 2 - 916724 ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท 33 หรือ บริจาคผ่านเวปไซต์ https://social.sinwattana.com/foodforfighters โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center โทรศัพท์ 02- 016 - 9910 วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 - 17.00 น.
