เสี่ยรถเบนซ์วอนอย่าเอาคดี"บอส"ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตมาโยงกับคดีของตนเองที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้ว ให้ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ห่วงสภาพจิตใจเด็ก
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ หรือ เสี่ยรถเบนซ์ อายุ 56 ปี ที่เคยเมาขับรถชนตำรวจและภรรยาเสียชีวิต ส่วนลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะออกมายอมรับชดใช้ความเสียหาย เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวว่า พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลสูงธนบุรีมีคำสั่งยื่นอุทธรณ์คดี เพื่อไม่ให้รอลงอาญาว่า ไม่เป็นความจริง เพราะอัยการยื่นอุทธรณ์จริงเป็นไปตามหน้าที่ และศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาให้ยืนตามศาลชั้นต้น คือ จำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญา
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ตนต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา ตอนที่ไปฟังคำพิพากษานั้น ตนไม่ได้ใครเลย นอกจากเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้น และไปในช่วงที่มีโควิด-19 ระบาดใหม่ ๆ จากนั้น ก็ไม่ได้ให้ข่าวกับใครเลย เพราะคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการรื้อฟื้นเรื่องนี้มาอีก เพราะว่าตอนนี้สภาพจิตใจของเด็กและคนอื่นกำลังดีขึ้น ตนติดต่อกับลูกสาวผู้เสียชีวิตโดยตลอด คุยไลน์และโทรหาพาไปกินข้าว ส่งขนมที่เด็กชอบรับประทานให้เป็นประจำ พอมีข่าวแบบนี้ออกมาเหมือนเป็นการไปรื้อฟื้น เรื่องคดี ทำให้เด็กคิดถึงพ่อแม่ ตนกลัวว่า สภาพจิตใจจะแย่ลง ซึ่งไม่เข้าใจว่าข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร น่าจะเป็นกรณีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา จึงขอวอนอย่าให้เอาเรื่องของตนไปโยงกับคดี บอสเลย เพราะว่ามันคนละคดีกัน ส่วนเรื่องคดีของตน ตอนนี้ถือว่าจบสิ้นแล้ว
