พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเพิ่มอีก 7 คัน รวมเป็น 20 คัน ให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ในการค้นหาเชิงรุกในประชาชนกลุ่มเสี่ยง
เมื่อวันที่ 2 ก.พ.64 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะ รับมอบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานเพิ่ม จำนวน 7 คัน รวมเป็น 20 คัน และให้สัมภาษณ์ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อกระทรวงสาธารณสุขและประชาชนชาวไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทรงคำนึงถึงความยากลำบากของราษฎรในการเข้ารับการบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเพิ่มเติม จำนวน 7 คัน (หมายเลข 14 – 20) รวมเป็น 20 คัน ใช้ในการตรวจค้นหา คัดกรองเชิงรุก เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยกระทรวงสาธารณสุขจะนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพที่ 1-12 ทั่วประเทศ รวมทั้งเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคโควิด 19
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้รับพระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย “ต้นแบบ” คันแรก เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อทดลองใช้และนำมาพัฒนาปรับปรุง และพระราชทาน “รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน” จำนวน 12 คัน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 รวมเป็น 13 คัน และได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจค้นหาเชิงรุกในบุคคลทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง ข้อมูลการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2564 เก็บตัวอย่างส่งตรวจ จำนวน 116,216 ราย
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงให้ความสำคัญในการควบคุมโรคอย่างเบ็ดเสร็จ ได้พระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ “ต้นแบบ” ให้กับกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1 คัน เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 ใช้งานคู่กับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน โดยได้จัดส่งรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานที่ได้รับเพิ่มเติม จำนวน 3 คัน จากเดิมที่มีอยู่ในพื้นที่ 6 คัน รวมเป็น 9 คัน พร้อมรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ลงสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มประสิทธิภาพระบบการเฝ้าระวัง ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก เพื่อยุติปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
