THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

30 พฤษภาคม 2564 : 10:47 น.

พรรคเพื่อไทยอัดยับรัฐบาลตัดงบการศึกษาทำไทยยิ่งล้าหลัง ชี้ถ้าไม่ยกเลิกแท็บเล็ตป่านนี้ดิจิตอลอีโคโนมีไทยไปอีกไกลแล้ว

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. ประธานอนุกรรมการนโยบายด้านสวัสดิการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า งบประมาณรายจ่ายปี 2565 มีวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2564 ถึง 1.85 แสนล้านบาท หรือลดลง 5.66% ซึ่งแสดงความเสื่อมถอยของประเทศ โดยมีการตัดงบประมาณกระทรวงศึกษาธิการถึง 2.45 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 6.75% ซึ่งนับว่าถูกตัดงบสูงมาก ทั้งที่การศึกษาเป็นความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้เด็กไทยมีความเฉลียวฉลาดมากขึ้นเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นได้ในอนาคต แต่พลเอกประยุทธ์กลับตัดงบการศึกษาอย่างมาก ยิ่งตอกย้ำความไม่สามารถแยกแยะความสำคัญในเรื่องต่างๆได้เลย

ทั้งนี้ ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาคุณภาพการศึกษาของไทยตกต่ำ อยู่อับดับท้ายๆของกลุ่มประเทศในอาเซียนมาตลอด ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของไทยจัดอยู่ในอันดับ 6 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยไทยตามหลังเวียดนาม ขณะที่ระดับอุดมศึกษาอยู่อันดับ 8 ซึ่งเป็นที่น่าตกใจว่าเราตามหลังกัมพูชาและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก แต่พลเอกกลับไม่เคยแก้ไขแถมยังจะมาตัดงบประมาณอีก ซึ่งจะยิ่งทำให้คุณภาพของการศึกษาไทยตกต่ำลงไปอีก

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า หากจำกันได้สมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้มีโครงการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียน ป 1 ทุกคน ซึ่งเป็นแนวคิดเพื่อที่จะปรับปรุงและปฏิรูปการศึกษา อีกทั้งยังเตรียมพร้อมเด็กนักเรียนรวมถึงผู้ปกครองให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิตอล โดยพรรคเพื่อไทยได้มีวิสัยทัศน์ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วตอนร่วมกันคิดโครงการนี้ ว่าเศรษฐกิจดิจิตอลของโลก จะมีขนาดใหญ่โตมากขึ้นในอนาคต ซึ่งปัจจุบันก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเศรษฐกิจดิจิตอลได้ขยายตัวและโตอย่างมากตามที่พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ไว้ คนที่รวยที่สุด และ บริษัทที่รวยที่สุดในโลกต่างก็มาจากเศรษฐกิจดิจิตอลกันทั้งนั้น เช่น นายเจฟฟ์ เบโซส์ ของอเมซอน นายอีลอน มัสก์ของเทสลา นายมาร์ค ซัคเคอเบิร์ก ของ เฟซบุ๊ค นายแจ๊ก หม่า ของอาลีบาบา นายโพนี่ หม่า ของเทนเซ็นต์ เป็นต้น ซึ่งหากไม่มีการปฏิวัติและไม่มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว ป่านนี้การพัฒนาการศึกษาไทย และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลของไทย คงไปได้ไกลกว่านี้มาก ประเทศไทยคงมีบริษัทเทคโนโลยีระดับยูนิคอร์นกันหลายบริษัทแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่มีเลย

อย่างไรก็ตาม จึงอยากเสนอให้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยอย่างจริงจัง เพื่อให้เข้ากับอนาคตของโลก และเข้ากับทิศทางการสร้างงานของโลก นักศึกษาจบมาจะต้องมีงานทำและต้องมีรายได้มากๆ เพื่อยกระดับคนชั้นกลาง อย่าให้เป็นเหมือนปัจจุบันที่นักศึกษาจบแล้วไม่มีงานทำ ตกงานกันเป็นแสนเป็นล้านคนแล้ว อีกทั้งรัฐบาลก็ต้องทำให้ประเทศมีอนาคตและน่าอยู่ ไม่ใช่สร้างความรู้สึกให้คนรุ่นใหม่อยากย้ายออกไปอยู่ต่างประเทศกัน เหมือนที่มี แฮชแท็ก #ย้ายประเทศกันเถอะ ที่มีคนเข้าร่วมกว่าล้านคนแล้ว ซึ่งถ้าหากคนเก่งคนฉลาดอยากไปอยู่ประเทศอื่นจริง จะทำให้เกิดสมองไหล ประเทศไทยจะพัฒนาต่อได้ยาก จึงอยากขอเตือนพลเอกประยุทธ์ในเรื่องเหล่านี้ และอยากให้มีการพัฒนาระบบการศึกษาอย่างจริงจัง โดยพรรคเพื่อไทยได้มีแผนในการพัฒนาและการสร้างงานรองรับการศึกษาอย่างครบวงจรแล้ว โดยงบการศึกษาและการบริหารการศึกษาที่ผิดพลาดมาตลอดนี้ จะต้องถูกอภิปรายในญัตติงบประมาณปี 65 ที่เข้าสภาเร็วนี้อย่างแน่นอน

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ