สิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณหนึ่งเดียวที่ยังเหลือมาถึงยุคปัจจุบันจากทั้งหมด 7 แห่ง คือ มหาพีระมิดแห่งกีซ่า ซึ่งสร้างขึ้นราว 4,600 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาพระศพของ ฟาโรห์คูฟู ตามความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายของชาวอียิปต์โบราณ
ถึงแม้ว่าพีระมิดแห่งกีซ่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด แต่เพราะความชาญฉลาดและความเจริญก้าวหน้าของชาวอียิปต์สมัยนั้น ทำให้มหาพีระมิดแห่งกีซ่ามีความแข็งแรง สามารถอยู่ยั้งยืนยงเคียงคู่โลกของเรามาหลายยุคหลายสมัย แม้ว่าสิ่งมหัศจรรย์ในโลกยุคโบราณรายอื่นจะผุพังไปตามกาลเวลา
ในปีที่แล้วนั้น คุนิฮิโระ โมริชิมะ จาก ม.นาโงยา ของญี่ปุ่น ระบุว่า เขาและคณะใช้วิธีสแกนโครงสร้างภายในของมหาพีระมิดด้วยอนุภาคมิวออน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงช่องว่างใหม่ช่องหนึ่งในมหาพีระมิดแห่งกีซ่า และถึงแม้ไม่สามารถระบุได้ว่าช่องว่างที่ว่านี้เป็นห้องลับ หรือเป็นเพียงช่องว่างที่มีมาคานน้ำหนัก แต่การค้นพบครั้งนั้นก็นำมาซึ่งความฮือฮา และผู้เชี่ยวชาญก็ได้แสดงความเห็นแตกต่างกันหลายด้าน
อย่างไรก็ดี ล่าสุด รายงานการวิจัยซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Applied Physics ระบุว่า ทีมนักฟิสิกส์นานาชาติได้คำนวณและสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ขึ้น เพื่อดูว่าโครงสร้างของมหาพีระมิดแห่งนี้จะตอบสนองต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างไร
ดร.แอนเดรย์ เยฟลูคิน หนึ่งในทีมผู้วิจัยชาวรัสเซีย บอกว่า “เราตั้งสมมติฐานว่าไม่มีช่องว่างภายในพีระมิดที่ยังค้นหาไม่พบ และตัวพีระมิดมีคุณสมบัติแบบหินปูนกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอทั้งภายในและภายนอก จากนั้นจึงมาคำนวณว่ารูปทรงพีระมิดจะทำให้เกิดการกระจายหรือดูดซับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอย่างไร รวมทั้งมีการสั่นพ้องของคลื่นเกิดขึ้นหรือไม่”
ผลการทดสอบทางทฤษฎีออกมาว่า โครงสร้างสูงใหญ่และมียอดแหลมของมหาพีระมิดสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าและพลังงานแม่เหล็กไว้ด้านในห้องว่าง และพลังงานที่ถูกเก็บไว้จะกลายเป็นพลังงานที่สูงขึ้นไปอีก โดยพลังงานเหล่านี้จะอยู่บริเวณด้านในและที่ฐานของพีระมิด
นักวิทยาศาสตร์คาดว่า จุดศูนย์รวมของพลังงานน่าจะอยู่ในห้องลับหลายห้อง ซึ่งรวมถึงห้องที่เก็บพระศพของฟาโรห์คูฟูและพระมเหสีด้วย
รูปทรงของมหาพีระมิดจะทำให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และทำให้สัญญาณกระจายตัวได้ดีขึ้นและทั่วถึงมากขึ้น เพราะมีจุดอับสัญญาณน้อย ทำให้บางคนอาจคิดว่าชาวอียิปต์ต้องการให้พีระมิดมีรูปแบบเช่นนี้ เพื่อให้คลื่นสัญญาณการติดต่อระหว่างผู้ตายกับโลกหน้าสามารถเชื่อมถึงกันได้โดยสะดวก แต่นักฟิสิกส์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า การที่ชาวอียิปต์โบราณออกแบบพีระมิดมาในลักษณะนี้ น่าจะเป็นความบังเอิญมากกว่าจงใจ เพราะชาวอียิปต์โบราณไม่ได้ล่วงรู้ถึงวิทยาศาสตร์สมัยใหม่แต่อย่างใด
ภาพหัวเรื่องโดย Nina / wikipedia.org
