WORLD NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

13 กรกฎาคม 2564 : 16:36 น.

เมื่อวัคซีนขาดแคลน COVAX ต้องพึ่งพาวัคซีนหลายร้อยล้านโดสจากจีน

การแจกจ่ายวัคซีนต้านควิด-19 ไปทั่วโลกผ่านโครงการ COVAX ขณะนี้กำลังหันไปพึ่งพาวัคซีนจากจีนหลังเกิดปัญหาวัคซีนขาดแคลน

โดยล่าสุด 2 ผู้ผลิตวัคซีนจากจีนตกลงส่งมอบวัคซีนให้กับโครงการ COVAX เพื่อช่วยกระจายวัคซีนไปทั่วโลก โดย Sinopharm ตกลงส่งมอบวัคซีน 170 ล้านโดส ด้าน Sinovac ตกลงส่งมอบวัคซีน 380 ล้านโดสภายในกลางปี 2022

โดย Sinopharm จะจัดส่งวัคซีนจำนวน 60 ล้านโดสภายในเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมนี้ ขณะที่ Sinovac จะส่งวัคซีนจำนวน 50 ล้านโดสระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน

ทั้งนี้ COVAX เป็นโครงการซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี (Gavi), กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด และองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การกระจายวัคซีนทั่วโลกเป็นไปอย่างเท่าเทียม

เป้าหมายของโครงการคือการแจกจ่ายวัคซีน 1.8 พันล้านโดสภายในต้นปี 2022 โดยให้ประเทศที่มีเพียงพอบริจาคเงินและวัคซีนให้แก่ประเทศยากจนเพื่อการจัดสรรวัคซีนอย่างเท่าเทียม โดยหลายประเทศจำเป็นต้องพึ่งพาวัคซีนจากโครงการ COVAX

ก่อนหน้านี้ COVAX พึ่งพาวัคซีนจาก 9 บริษัทรวมถึง Moderna, Johnson & Johnson, Pfizer-BioNTech, AstraZeneca และ Novavax

แต่ขณะนี้ COVAX ได้ส่งมอบวัคซีนไปแล้วเพียง 102 ล้านโดส โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะประเทศร่ำรวยกว้านซื้อวัคซีนไปตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ส่งผลให้มีวัคซีนเหลือมาตกถึงโครงการ COVAX น้อยลง

ยกตัวอย่างเช่น Moderna ซึ่งได้ตกลงส่งมอบวัคซีนผ่านโครงการจำนวน 500 ล้านโดส แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะสามารถจัดส่งได้ภายในปีนี้

อีกประการสำคัญที่ชะลอการดำเนินการของ COVAX คือการที่อินเดียระงับการส่งออกวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตในประเทศเมื่อช่วงต้นปีนี้เนื่องจากมีการระบาดร้ายแรงในประเทศ ทั้งนี้ COVAX ได้พึ่งพาวัคซีนที่ผลิตในอินเดียมากกว่าครึ่งหนึ่ง เมื่ออินเดียไม่สามารถส่งออกวัคซีนได้โครงการจึงไม่สามารถส่งมอบวัคซีนไปยังประเทศต่างๆ ได้

ตลอดจนเหตุไฟไหม้ที่โรงงานผลิตในอินเดียนำมาสู่การสูญเสียอุปกรณ์และความล่าช้าในการวางสายการผลิตเพิ่มเติม ส่งผลให้ COVAX และประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศดิ้นรนเพื่อหาแหล่งวัคซีนใหม่หลังจากที่อินเดียเผยว่าจะไม่กลับมาส่งออกจนถึงสิ้นปีนี้

Gavi ระบุว่า "เพื่อประโยชน์ของประเทศยากจนที่มีวัคซีนในปริมาณไม่เพียงพอ จึงได้ตกลงกับผู้ผลิตวัคซีนทั้ง 2 รายจากจีน เนื่องจากได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้วจึงสามารถส่งมอบวัคซีนผ่านโครงการ COVAX ได้ทันที"

แม้ว่าหลายประเทศจะมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนจากจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรง หลังจากที่หลายประเทศพบกรณีผู้ติดเชื้อจำนวนมากทั้งที่ฉีดวัคซีนครบโดส

แต่ในสถานการณ์ที่วัคซีนทั่วโลกกำลังขาดแคลนนั้น วัคซีนจากจีนทั้ง 2 ยี่ห้อนับว่าเป็นอีกกำลังสำคัญที่จะช่วยให้โครงการ COVAX ดำเนินการส่งมอบวัคซีนให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่อไปได้

โดย Gavi ยืนยันว่าวัคซีนจากจีนทั้ง 2 ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้วทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ขณะที่โครงการจำเป็นต้องแจกจ่ายวัคซีนอย่างเร่งด่วนเมื่อโลกกำลังเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ต่างๆ

Photo by Mamyrael / AFP

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ