ป็อกบา,มาร์กซิยาล ซัดคนละเม็ดพาแมนฯ ยูไนเต็ดเก็บ 3 แต้ม เปิดบ้านเชือดเอฟเวอร์ตัน 2-1

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.  “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด พบกับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเกมนี้เจ้าถิ่นดร็อป โรเมลู ลูกากู หัวหอกฟอร์มฝืดไปเป็นตัวสำรอง โดยกุนซือโจเซ่ มูรินโญ่ ใช้บริการ ฆวน มาต้า มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล เป็น 3 ประสานในแดนหน้า

ครึ่งแรกแฟนเรดอาร์มี่ได้เฮก่อนในนาทีที่ 27 เมื่อ อิดริสซ่า เกย์ กองกลางเอฟเวอร์ตันไปสกัดมาร์กซิยาลล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสิน โจนาธาน มอสส์ เป่าให้เป็นจุดโทษแก่เจ้าถิ่นทันที และเป็น พอล ป็อกบา รับหน้าที่สังหารจังหวะแรกไปติดเซฟผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด แต่บอลยังกลับมาเข้าทางป็อกบา ยิงซ้ำดาบสองเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของทีมผีแดง

หลังจากนั้น ครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดหนีห่างออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 49 เมื่อมาร์กซิยาลได้ปั่นด้วยเท้าขวาหน้าเขตโทษ ส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด

ต่อมานาที 77 เอฟเวอร์ตันมาได้ลูกจุดโทษบ้าง จากจังหวะที่ คริส สมอลลิ่ง ไปหวด ริชาร์ลิสัน ล้มในเขตโทษ ซึ่ง กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้ทีมเยือนไล่ตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-2

ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินพยายามเร่งเกมหวังยิงตีเสมอให้ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1

ส่วนผลคู่อื่น อาร์เซน่อลโดนหยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 11 เกมติดต่อกันในทุกรายการ หลังจากบุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 โดยพาเลซได้ประตูจากจุดโทษของ ลูก้า มิลิโวเยวิช ทั้งสองลูก (นาที 45, 83) ส่วนทีมปืนใหญ่ได้จาก กรานิต ชาก้า (51) และ ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง (56)

ขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี บุกไปถล่ม เบิร์นลี่ย์ 4-0 จากการเรียงหน้ายิงของ อัลบาโร่ โมราต้า (22) รอสส์ บาร์คลี่ย์ (57) วิลเลี่ยน (62) และ รูเบน ลอฟตัส ชีค (90) ทำให้ทีมสิงห์บลูขยับขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูงของตาราง