การเมืองกับธุรกิจเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ขาด ทั้งสองต่างเป็นองค์ประกอบของกันและกันในทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นในญี่ปุ่นมีสิ่งที่เรียกว่า ไซบัตสึ หรือกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ขาที่พยุงระบบการปกครองญี่ปุ่นเอาไว้ ประกอบด้วย การเมือง ข้าราชการ และภาคธุรกิจ
แต่เรื่องนี้ไม่แปลก และหลายประเทศก็มีโมเดลคล้ายๆ กัน แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการเมืองล่ะ? ใครล่ะจะไปคาดคิดว่า สตาร์ทอัพก็มีแนวการเมืองด้วย?
ธุรกิจกลุ่มนี้เรียกว่า การเมืองไฮเทค หรือ Political tech
อย่างเช่น เมื่อปีที่แล้วกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา ทุ่มทุนสตาร์ทอัพสายเทครายหนึ่งเป็นเงินถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ชื่อ Higher Ground Labs ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างเทคโนโลยีและเครือข่ายการรณรงค์รูปแบบต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการเมืองและสังคม “ที่ก้าวหน้า” พร้อมทั้งให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพในกลุ่มการเมืองไฮเทครายต่างๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อระบบการเมืองที่ทันสมัย
บริษัทที่ผนึกกำลังกับ Higher Ground Labs มีอยู่มากมาย ต่างก็มีจุดขายด้านการเมืองไฮเทคที่แตกต่างกัน แสดงถึงสิ่งแวดล้อมทางการเมืองที่เปิดกว้างและความรุ่งเรืองทางเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ไม่ขาดสายในสหรัฐ
บริษัทที่รับความช่วยเหลือจาก Higher Ground Labs ที่น่าสนใจก็เช่น
1. Invest Leftคือแอพพลิเคชั่นที่ช่วยค้นหานักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต้องการเงินสนับสนุน แอพนี้จะช่วยค้นหาเป้าหมายที่เราต้องการและเป็นช่องทางมอบทุนสนับสนุน และยังสามารถติดตามผลลัพธ์จากการสนับสนุนได้ โดยเฉพาะผลสะเทือนที่นักการเมือง/นักเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้สร้างขึ้น นัยหนึ่งก็คือ เราสามารถลงทุนกับนักการเมืองได้ และยกเลิกการลงทุนได้หากผลที่ออกมาไม่เข้าท่า
2. Swayable ทำการประเมินการรณรงค์และมาตรการต่างๆ ว่าทำให้ทัศนคติของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด และนักรณรงค์จะใช้ข้อมูลเหล่านั้นมากระตุ้นให้เกิดผลสะเทือนต่อทัศนะของสาธารณชน ด้วยกระบวนการประเมินแนวทางการชักจูงและวิเคราะห์ว่า วิธีการใดที่ทำให้ผู้คนมีปฏิกิริยาตอบรับมากที่สุด โดยรวมก็คือ เป็นการใช้ศาสตร์แห่งข้อมูลและการวิเคราะห์สื่อ เพื่อดูว่าความคิดของคนเราจะเปลี่ยนไปตามเนื้อหาที่นำเสนอเพียงใด
3. Grow Progressช่วยดึงเสียงสนับสนุนด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ออกเสียง เช่น บุคลิกของคนเหล่านั้น เพื่อช่วยให้ลูกค้า (เช่น นักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหว) สามารถกำหนดแนวทางหาเสียงที่ตรงประเด็นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำการออกแบบสารที่จะส่งถึงเป้าหมายให้เข้าตรงกระบวนวิธีคิดของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ด้วยวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลและออกแบบสารที่จะส่งไป จะช่วยให้กำชัยชนะในศึกเลือกตั้งที่เสียงของประชาชนค่อนข้างแตกออกเป็นฝักฝ่ายอย่างชัดเจนได้
4. 5 Callsเป็นแพลตฟอร์มในการผลักดันโครงการที่ก้าวหน้า โดยมีฐานข้อมูลในการติดต่อกลุ่มเป้าหมาย (ผ่านฐานข้อมูลเบอร์โทรศัพท์) เช่น อาสาสมัคร ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ผู้ให้ทุนสนับสนุนทางการเมือง และผู้แทนทางการเมือง เป้าหมายหลักๆ ของแพลตฟอร์มนี้ เช่น การเปิดช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงผู้แทนของพวกเขา และสะท้อนประเด็นที่ประชาชนคิดว่าเป็นปัญหา
5. Factba.seเป็นอะไรที่เมืองไทยเราน่าจะมีมาก บริการของสตาร์ทอัพรายนี้ จะช่วยค้นหาถ้อยคำที่คนคนหนึ่งเคยพูดไว้ (แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนดังหรือนักการเมือง) ทั้งที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์และในสื่ออื่นๆ เพื่อให้องค์กรที่ทำการเคลื่อนไหวในประเด็นต่างๆ สามารถตรวจสอบความไม่ชอบมาพากล การเปลี่ยนแปลงท่าทีของนักการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง บริการแบบนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมกระบวนการ Transparency หรือความโปร่งใส ซึ่้งเป็นกลไกหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย