เวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของ เอลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา ที่อะไรๆ ดูเหมือนจะไม่เป็นไปตามที่เขาคิด
ล่าสุด คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (ก.ล.ต.) บรรลุข้อตกลงกับ เอลอน มัสก์ หลังยื่นฟ้องมัสก์และบริษัทในข้อหาปั่นหุ้น จากการณีที่มัสก์ทวีตว่าจะนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น โดยเทสลาต้องจ่ายค่าปรับ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ
มัสก์ยังต้องลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทภายใน 45 วัน และห้ามกลับมาดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 3 ปี แต่ยังดำรงตำแหน่งซีอีโอได้ ต่อมา เจย์ ดูบาว ผู้เชี่ยวชาญประจำฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน เผยว่า น่าแปลกที่ ก.ล.ต.ยอมให้มัสก์ดำรงตำแหน่งซีอีโอต่อ เพราะซีอีโอมีบทบาทในการบริหารงานโดยตรงมากกว่าประธานบริษัท
ก่อนหน้านี้ มหาเศรษฐีเจ้าโปรเจกต์ ยังใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องทำงานจนครอบครัวและคนใกล้ตัวเป็นห่วงว่าทำงานหนักเกินไปไม่หลับไม่นอน จนต้องพึ่งยานอนหลับ การเผชิญแรงกดดันมหาศาลนี้ ทำให้ มัสก์ เสียศูนย์จนแทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนเหมือนจะร้องไห้ออกมาตอนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์
หลังจากกรณีของ มัสก์ มีคำแนะนำวิธีการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ไม่พึงประสงค์ซึ่ง M2F รวบรวมไว้ดังนี้
* อย่าปล่อยให้งานกลายเป็นชีวิต
มัสก์ เคยให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์ก ไทมส์ ว่า เขาต้องทำงานสัปดาห์ละ 120 ชม. หรือเฉลี่ยวันละ 17 ชม.กว่า และบางครั้งก็ต้องพึ่งพายานอนหลับ เฮลี ฟิชเชอร์ ไรท์ ซีอีโอองค์กรด้านสุขภาพ Medical Group Management Association กล่าวว่า เธอไม่มีทางทำแบบซีอีโอของเทสลาเด็ดขาด เพราะไม่ว่าอย่างไรสุขภาพก็สำคัญกว่างาน และการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอเป็นเรื่องที่ผู้บริหารไม่ควรละเลย
* กระจายงาน
เดวิด ฟินเคิล ที่ปรึกษาด้านการทำธุรกิจ เผยว่า การนั่งปวดหัวอยู่กับงานยิบย่อยประจำวันในบริษัทสูบพลังงานและแรงบันดาลใจของซีอีโอไปไม่น้อย และเหตุผลที่ผู้บริหารยังต้องจู้จี้กับงานเหล่านี้ทุกขั้นตอนคือ พวกเขากลัวว่าจะสูญเสียอำนาจการควบคุม ฟินเคิล แนะนำให้ผู้บริหารกระจายงานและมอบอำนาจการตัดสินใจไปยังทีมบริหารเพื่อลดภาระงานของตัวเอง แล้วคอยควบคุมทิศทางการทำงานให้เป็นไปตามแผนแทน จะได้มีเวลาโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด
* อย่าโชว์เดี่ยว
งานที่ SpaceX มัสก์ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กวินน์ ช็อตเวลล์ ประธานบริษัท การบริหารใน SpaceX จึงราบรื่น แต่สำหรับเทสลา ในรอบ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ทีมบริหารตั้งแต่รองประธานหรือตำแหน่งที่สูงกว่าที่ มัสก์ เคยไว้วางใจทยอยลาออกไปกว่า 50 คน ทำให้ตอนนี้ มัสก์ ขาดที่ปรึกษารู้ใจ การตัดสินใจอนาคตบริษัทด้วยคนคนเดียวสมองเดียวอาจยังมองผลกระทบไม่รอบด้าน
* ทำงานให้สมาร์ท
การทำงานหนักเป็นเรื่องดี แต่ ฟินเคิล มองว่า การทำงานอย่างชาญฉลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน ซีอีโอที่สมาร์ทในมุมมองของ ฟินเคิล คือ ใช้เวลาทุกนาทีทำงานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายต่างๆ หรือที่เรียกว่า c-suit
* รักษาคนใกล้ตัวที่กล้าพูดความจริงกับเราไว้
เพราะยิ่งตำแหน่งสูงคนที่กล้าพูดความจริงกับเรายิ่งน้อยลง หากเราตัดสินใจผิดพลาด อย่างน้อยก็ยังมีกลุ่มคนเหล่านี้ที่คอยทักท้วง