โมเม้นท์ที่น่าเบื่อที่สุดของวันทำงาน คงหนีไม่พ้นตอนที่ต้องลากตัวเองออกจากเตียงนุ่มๆ เพื่อมาติดในขบวนรถติดแสนสาหัส ที่ทั้งน่าเบื่อ ยาวนาน และชวนง่วงเหงาหาวนอน หลายคนจึงติดนิสัยต้องกินกาแฟทุกเช้าเพื่อกระตุ้นให้ตัวเองมีแรงในการถ่างตาทำงานอีกหลายชั่วโมง

แต่ในเมื่อทุกคนคิดเช่นนี้ คิวร้านกาแฟในตอนเช้าจึงมีความยาวราวกำแพงเมืองจีน กว่าจะต่อคิว กว่าจะได้สั่ง เผลอๆ ไปทำงานสายกันพอดี ซึ่งปัญหานี้ เฮนรี่ ฮู นักศึกษาจากแมสซาชูเซตส์ก็ได้เผชิญเข้ากับตัวเอง ตอนที่ต่อคิวยาวเหยียดในร้านกาแฟที่สนามบิน ทำให้เขาคิดกับตัวเองว่า จริงๆ แล้วเหล่าบาริสต้าก็ต้องทำเมนูเดิมซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งพวกเขาก็ต้องกดเครื่องทำกาแฟเพื่อทำกาแฟอยู่ดี มันจะไม่ดีกว่าหรือถ้าหากเราสามารถสร้างหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ชงกาแฟได้อย่างเสร็จสรรพ

ฮู และเพื่อนของเขาจึงร่วมกันสร้างหุ่นยนต์บาริสต้าขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้ โดยหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถชงเครื่องดื่มได้หลากหลายและรวดเร็ว มันสามารถชงเครื่องดื่มได้ถึง 300-400 แก้วต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งการทำงานของมันก็ง่ายๆ เพียงแค่ลูกค้าเข้าร้านและจิ้มที่หน้าจอว่าอยากรับเครื่องดื่มชนิดไหน ต้องการออปชั่นเสริมอย่างไร เช่น หวานน้อย หรือเพิ่มฟองนม เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้จะชงให้ด้วยความถูกต้องและรวดเร็วภายในหนึ่งนาทีเท่านั้น หมดปัญหาต้องยืนรอนานๆ แถมได้เครื่องดื่มที่บาริสต้าชงผิดบ้างถูกบ้าง

นอกจากนี้ สิ่งที่หุ่นยนต์ตัวนี้สามารถทำได้ดีกว่ามนุษย์คือ การเก็บข้อมูลการสั่งของลูกค้าแต่ละคนว่าลูกค้ารายไหนมักจะชอบสั่งเครื่องดื่มแบบไหน มีอะไรพิเศษบ้าง ซึ่งทำให้การซื้อเครื่องดื่มครั้งต่อไปสะดวกยิ่งขึ้น และหากทางร้านมีแพลนจะทำโปรโมชั่นแลกเครื่องดื่ม ลูกค้าก็ไม่ต้องคอยพกคูปองให้ลำบาก เพราะเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้เก็บข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบันนี้ หุ่นยนต์บาริสต้านี้ได้ทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟ คาเฟ่ เอ็กซ์ ที่ใจกลางย่านธุรกิจในซานฟรานซิสโก และถึงแม้ว่าเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถทำได้แทบทุกอย่าง ตั้งแต่ชงเครื่องดื่มไปจนส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้า แต่ทางร้านก็ยังมีพนักงานประจำอยู่อีกสองคนเพื่อบริการลูกค้าและทำความสะอาดหุ่นยนต์หนึ่งครั้งต่อวัน โดยราคาเครื่องดื่มฝีมือบาริสต้าจักรกลต่อแก้วนี้ก็ไม่แพงอย่างที่คิด โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ราว 95 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การใช้หุ่นยนต์มาทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มก็ไม่ใช่ไอเดียที่ทุกคนจะเห็นด้วย ด้านลูกค้าประจำของร้านกาแฟชื่อดังอย่างสตาร์บัคส์ลงความเห็นว่า พวกเขาติดใจเสน่ห์การได้รับเครื่องดื่มที่ชงโดยบาริสต้าที่เป็นคนจริงๆ มากกว่า ซึ่งสตาร์บัคส์เองก็ยังไม่มีแผนการที่จะเพิ่มหุ่นยนต์ไปเป็นพนักงาน ถึงแม้ว่าปัจจุบันสตาร์บัคส์จะมีแอพพลิเคชั่นประจำร้าน ที่เปิดให้ลูกค้าสั่งกาแฟผ่านแอพ และเก็บข้อมูลการสั่งซื้อก็ตาม

ด้านคาเฟ่ เอ็กซ์ ก็ได้ให้เหตุผลว่าทางร้านไม่ได้มีความตั้งใจที่จะแทนที่บาริสต้าที่เป็นคนจริงๆ ด้วยหุ่นยนต์ หรือพยายามจะตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและพนักงาน หัวหน้าฝ่ายออกแบบของคาเฟ่ เอ็กซ์ วิคตอเรีย สเลเกอร์ ให้ความเห็นว่าการนำหุ่นยนต์มาชงเครื่องดื่มถือว่าเป็นการก้าวมาอีกขั้นที่เหนือกว่าการใช้เครื่องกดเครื่องดื่มหยอดเหรียญทั่วๆ ไป เพราะการมาสั่งซื้อเครื่องดื่มกับหุ่นยนต์นั้น ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกและน่าสนใจกว่า แถมยังได้เครื่องดื่มรสชาติกลมกล่อมด้วย

ซึ่งฝ่ายออกแบบก็พยายามจะทำให้หุ่นยนต์ดูไม่น่าขนลุก ด้วยการปล่อยให้มันดูเป็นเครื่องจักร ไม่ใช่ใส่หน้าใส่ตาให้มันดูเหมือนคนจนดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะจุดประสงค์ของคาเฟ่คือการมอบบรรยากาศเป็นมิตรให้แก่ลูกค้าพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรดแสนอร่อยราคาย่อมเยาว์ที่ไม่ต้องรอนาน