BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

06 ธันวาคม 2561 : 15:44 น.

พี่คล้าว 2018 ร้อง ผบช.น. ขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว อ้างตั้งข้อหาเกินจริง จ่อฟ้องกลับแจ้งความเท็จ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพจสายตรงกฎหมาย พร้อมด้วย นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือพี่คล้าว 2018 เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ  พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กรณี สน.คันนายาว ตั้งข้อหาเกินจริง และขอให้ถอนข้อหาเรี่ยไร กับข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากที่ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ แจ้งความข้อหาฉ้อโกงแก่ นายสุรัตน์ ที่ สน.คันนายาว หลังระดมทุนผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวซื้อควายชื่อ "เจ้าทองคำ" จาก นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ราคา 1 แสนบาท ทั้งนี้ ยังได้ร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว พร้อมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.วิศิษฐ์ หมื่นสุวรรณ์ ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว

นายรัชพล เปิดเผยว่า มาร้องขอความเป็นธรรมให้ถอนข้อหาจำนวน 4 ข้อหา ได้แก่ 1. ความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร่ พ.ศ.2487 เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายเรี่ยไร เพราะไม่มีการเรี่ยไรเงินในถนนหลวง หรือที่สาธารณะ ไม่มีการพิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนาจึงไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 รวมถึงใช้วิทยุกระจายเสียง เนื่องจากเป็นการกระทำผ่านเฟซบุ๊คที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว 2. ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไม่มีความผิดเนื่องจากนายสุรัตน์ไม่ได้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 3. ความผิดฐานฉ้อโกงไม่เป็นความผิดเพราะขาดเจตนาที่จะกระทำการดังกล่าว และ 4. ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะไม่ได้มีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะพูดคุยกับทนายคนดังที่กล่าวหา ก่อนที่จะพานายสุรัตน์เข้าแจ้งความกลับในความผิดข้อหาแจ้งความอาญาผู้อื่นโดยเป็นเท็จ

นอกจากนี้ กรณีพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว รับแจ้งความร้องเรียนในวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายใน 3 วัน ก็สรุปความผิดแล้ว ถามว่ามีมูลพอหรือไม่ที่จะสรุปความผิดของ นายสุรัตน์ ถือว่าเป็นการรวบรัดด้วยความรวดเร็วเกินไป โดยที่ยังไม่ได้มีการซักถาม ถือว่าปฏิบัติหน้าที่รวดเร็วเกินไป และไม่เป็นธรรมแก่นายสุรัตน์ ขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ทั้งชุด และตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวน สน.คันยายาว ที่ทำคดีดังกล่าว เนื่องจากกรณีที่ชัดเจนที่สุดคือการตั้ง พ.ร.บ.เรี่ยไร่ ไม่ผิดข้อหาดังกล่าวแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาดังกล่าวได้อย่างไร เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการร้องเรียนครั้งนี้อย่างแน่นอน

ด้าน นายสุรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องการแจ้งความ อยากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบเดิม อยู่กับครอบครัวก็อยากจบกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีทนายชื่อดังมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เจตนาตนก็พูดในส่วนที่ตั้งใจซื้อเจ้าทองคำ และการสร้างรอยยิ้มเท่านั้นอย่างที่เห็นในเฟซบุ๊ค อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าการมาตั้งคำถามกับตนมาก ก็ทำให้เกิดความงงขึ้นมาเหมือนกัน พอพูดไปก็มาตั้งคำถามเพิ่มเติมทำให้ต้องหยุดคิด ตอบไปแล้วตั้งคำถามใหม่ซ้ำๆ ทำให้ตนเองเกิดความงง พอตอบไปอย่างหนึ่งก็ถามมาใหม่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ตนจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ในวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ต่อไป

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ