กทม.ชี้แจงประเด็นปัญหาทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้ากินพื้นที่ทางเท้า
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. ชี้แจงประเด็นที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ กทม. ทบทวนสั่งให้มีการปรับแบบและสั่งรื้อทางขึ้นลงรถไฟฟ้าทุกสายทั้งของรัฐและเอกชนทั้งในปัจจุบันและสายต่างๆ ในอนาคต ให้ลดขนาดบันได้ขึ้น-ลงรถไฟฟ้าให้เหลือ 50% จากความกว้างของทางเท้า เนื่องจากปัจจุบันรถไฟฟ้าสายต่างๆ ใช้ทางเดินเท้าหรือฟุตปาธเป็นบันไดขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้า รวมทั้งรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่กำลังก่อสร้างยึดพื้นที่ฟุตปาธนำไปทำทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้า ทำให้เหลือพื้นที่ทางเท้าบางจุดไม่ถึง 1-2 ฟุต ในขณะที่บันไดขึ้น-ลงรถไฟฟ้ากลับขยายอย่างกว้างขวางเกินความจำเป็น ถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนที่ใช้ทางเท้าที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของรถไฟฟ้า และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับรถไฟฟ้าจนเกินเหตุ มิฉะนั้น สมาคมฯ และชาวบ้านจะฟ้องศาลปกครองเพื่อระงับการก่อสร้างและรื้อถอนทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าต่อไป
กทม.ขอชี้แจงว่า ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่ง รฟม. เป็นผู้ดำเนินการงานโครงสร้างพื้นฐานและ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถ ในส่วนของการก่อสร้างทางขึ้น-ลงสถานีนั้น มีการใช้พื้นที่ทางเท้าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้บริการและลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนในการเวนคืนที่ดิน ซึ่งขนาดความกว้างของทางขึ้น-ลงที่ รฟม.ก่อสร้างเป็นไปตามแบบมาตรฐานในการอพยพฉุกเฉินกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อย่างไรก็ตาม กทม.โดยสำนักการโยธา ได้กำหนดเงื่อนไขในการก่อสร้างของ รฟม.บนทางเท้าสาธารณะต้องมีพื้นที่ทางเท้าเหลือกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 ม. ตามกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ. 2548 กฎกระทรวงกำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการในอาคาร สถานที่หรือบริการสาธารณะอื่นเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2555 และกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการในอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ และบริการขนส่ง เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2556 ขณะเดียวกัน กทม.จะตรวจสอบตำแหน่งที่มีการร้องเรียนและประสาน รฟม. ว่ามีการก่อสร้างเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวต่อไป