ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษในอากาศ กทม. และปริมณฑล โดยมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศประจำวันที่ 31 ม.ค. พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ 65 - 108 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ พบว่า มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) 24 แห่ง และพบว่ามี 3 แห่ง ที่อยู่ในระดับสีแดง (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) คือ บริเวณเขตบางพลัด บางกอกน้อย และเขตบางเขน สำหรับค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินมาตรฐานในแต่ละพื้นที่ มีดังนี้
1) เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : 79 มคก./ลบ.ม.
2) เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้ ร.พ.วิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : 77 มคก./ลบ.ม.
3) เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : 81 มคก./ลบ.ม.
4) เขตปทุมวัน บริเวณริมถนนจามจุรีสแควร์ เยื้อง MRT สามย่าน : 76 มคก./ลบ.ม.
5) เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : 65 มคก./ลบ.ม.
6) เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : 90 มคก./ลบ.ม.
7) เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : 73 มคก./ลบ.ม.
8) เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : 80 มคก./ลบ.ม.
9) เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ : 84 มคก./ลบ.ม.
10) เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : 86 มคก./ลบ.ม.
11) เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : 81 มคก./ลบ.ม.
12) เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : 83 มคก./ลบ.ม.
13) เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : 92 มคก./ลบ.ม.
14) เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) : 86 มคก./ลบ.ม.
15) เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : 79 มคก./ลบ.ม.
16) เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : 79 มคก./ลบ.ม.
17) เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : 81 มคก./ลบ.ม.
18) เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : 87 มคก./ลบ.ม.
19) เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : 108 มคก./ลบ.ม.
20) เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : 90 มคก./ลบ.ม.
21) เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : 96 มคก./ลบ.ม.
22) เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : 81 มคก./ลบ.ม.
23) เขตราชเทวี บริเวณสำนักงานเขตราชเทวี : 73 มคก./ลบ.ม.
24) เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : 80 มคก./ลบ.ม.
แนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรหลีกเลี่ยงหรือลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย N95 ขณะอยู่กลางแจ้ง นอกจากนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานพยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ลมสงบและมีเมฆบางส่วน
สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกประกาศกรุงเทพมหานครให้พื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นั้น สำนักอนามัย ได้แจ้งให้ทุกสำนักงานเขตทราบ และลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชน ส่วนสำนักงานเขต ได้ปิดประกาศดังกล่าวไว้ในที่เปิดเผย ณ สำนักงานเขต และเตรียมความพร้อมดำเนินการตามประกาศอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ สำนักการโยธาได้เชิญประชุมเจ้าของอาคารหรือผู้ดําเนินการก่อสร้างหรือผู้แทนเข้าร่วมประชุมหารือร่วมกัน ในวันนี้ (31 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. อีกทั้งยังได้ออกหนังสือเชิญหน่วยงานที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าและหน่วยงานที่ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมประชุมในวันที่ 1 ก.พ. เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม อาคารธานีนพรัตน์ชั้น 23
ด้านกองบังคับการตำรวจจราจร จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ในการออกปฏิบัติงานร่วมกับ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากเดิมมีการตั้งด่านวันละ 20 ชุด ประกอบด้วยชุดปฏิบัติการ (ปกติ) 15 ชุด และหน่วยเคลื่อนที่ 5 ชุด โดยได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานร่วมกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อตรวจวัดควันดำที่อู่จอดรถ ในส่วนของภารกิจการตั้งด่านในช่วงของการประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ สำนักงานเขตสามารถแจ้งรายละเอียดวัน เวลา และสถานที่ตั้งจุดตรวจเพื่อขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจร่วมกันได้