ผู้ว่าฯ กทม. เผย เตรียมใช้เครื่องบินเล็กพ่นน้ำในอากาศ พร้อมบินโดรนอย่างต่อเนื่อง เล็งหารือรัฐบาลลดภาษีนำเข้าหน้ากากอนามัย
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยภายหลังการประชุมระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน ที่ศาลาว่าการ กทม. โดยมีนักวิชาการ แพทยสมาคม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการอาคารสูงเข้าร่วม กว่า 300 คน ว่า กทม. เตรียมทำการบินด้วยเครื่องบินเล็กเพื่อฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ โดยจะใช้เครื่องบินเล็กจากโรงเรียนการบินพลเรือน จำนวน 47 ลำ ซึ่ง กทม.จะทำหนังสือไปถึงสำนักงานการบินพลเรือนเพื่อขอทำการบิน โดยฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ ในวันเสาร์ที่ 2 ก.พ.นี้ โดยจะทำการบินในเขตพระราม 2 ทั้งเส้น และอาจเลยไปถึงเขต จ.สมุทรสาคร โดยการบินจะแบ่งเป็นฝูงบินขึ้นทีละ 10 ลำ มีรัศมีการบินที่ความกว้าง 1 กม. ความยาว 60 กม. โดยในการบินแต่ละพื้นที่อาจจะบินไม่ได้ เช่น เขตหวงห้าม การบินในพื้นที่กรุงเทพตะวันออกที่เกี่ยวข้องกับการสัญจรทางอากาศ และในเขตกรุงเทพชั้นในที่มีอาคารสูง
ส่วนการบินโดรนในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) จะทำการบินในจุดใหม่ที่ไม่ได้ทำการบินในวันนี้ และจะทำการบินโดรนอย่างต่อเนื่องโดยยังไม่มีกำหนดว่าจะหยุดบินเมื่อไหร่ หลังจากนั้นจะมีการประเมินผลว่าสามารถช่วยลดฝุ่นละอองได้จริงหรือไม่ จะต้องรอข้อมูลจากทางนักวิชาการที่จะประเมิน แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะสามารถควบคุมได้บ้าง ส่วนการสวมใส่หน้ากากอนามัย ที่ประชาชนอาจเดือดร้อนกับภาระค่าใช้จ่ายหากต้องทำการเปลี่ยนหน้ากากใหม่เป็นประจำทุกวัน ยืนยันว่า หน้ากากอนามัยสามารถใช้ได้นานโดยไม่ต้องเปลี่ยนทุกวัน โดย กทม.จะหารือกับรัฐบาลในเรื่องของการลดภาษีนำเข้าหน้ากาก เพื่อให้ราคาหน้ากากอนามัยถูกลง
สำหรับมาตรการบังคับใช้กฎหมายหลังจากประกาศให้ กทม.เป็นพื้นที่ควบคุม จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการจับหรือปรับรถยนต์ที่ปล่อยควันดำ ซึ่ง กทม.ไม่มีเครื่องมือ โดยขณะนี้ได้ประสานไปยังกรมควบคุมมลพิษเพื่อขอเครื่องมือตรวจจับควันดำ พร้อมทั้งได้ฝากให้ผู้ประกอบการรถยนต์ประเมินสภาพรถของตัวเองและชะลอการใช้งาน
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังเชิญชวนประชาชนให้ทำกิจกรรมบิ๊ก คลีนนิ่ง เดย์ ช่วยทำความสะอาดบ้านและสวนของตัวเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาอีกทางหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการทำความสะอาดบ้านก่อนวันไหว้อยู่แล้ว