กทม.จับมือ กฟน. ทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงินนำร่องแห่งแรก ณ ตลาดบางกะปิ
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานแถลงข่าวพิธีลงนามความร่วมมือโครงการนำร่องทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงินระหว่าง กทม.กับการไฟฟ้านครหลวง โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัด กทม. นายพงษ์ศักดิ์ ละมูนกิจ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)
โดย กทม.ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง จัดแถลงข่าวพิธีลงนามความร่วมมือโครงการนำร่องทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงิน ณ ตลาดบางกะปิ ซ.ลาดพร้าว 127 เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการสาธารณูปโภค โดยนำร่องโครงการทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงิน จำนวน 77 เครื่อง และปรับเปลี่ยนรูปแบบการจดหน่วยการใช้กระแสไฟฟ้าจากเดิมใช้ไฟฟ้าก่อนประมาณ 1 เดือน (Postpaid) มาเป็นการเติมเงินล่วงหน้าแบบออนไลน์ (Prepaid) เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเติมเงินค่ากระแสไฟฟ้าเข้าระบบ ก็จะสามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้
ทั้งนี้ หากจำนวนเงินในระบบใกล้หมด จะมีข้อความแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทำการเติมเงินหากต้องการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวจะช่วยยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการ เพิ่มศักยภาพในด้านสาธารณูปโภค ควบคุมการจัดเก็บรายได้ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ประหยัดการใช้ไฟฟ้า ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ซึ่งระบบการใช้ไฟฟ้าแบบเติมเงิน สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.โดยสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการนำร่องทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงิน ณ ตลาดบางกะปิ ซอยลาดพร้าว 127 นับเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนามาตรฐานของตลาด เพิ่มศักยภาพในการใช้ไฟฟ้าอย่างสะดวก ปลอดภัย แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ค้าตลาดบางกะปิ โดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับผู้ประกอบการค้าที่เข้ามาค้าขายภายในตลาดบางกะปิ อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายของทั้ง 2 หน่วยงาน ที่ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด สนับสนุนส่งเสริมการค้าและบริการให้สะดวกเพิ่มมากขึ้น ตรงตามความต้องการของผู้ค้าที่ใช้ไฟฟ้าแบบรายวัน
กทม.จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกัน ภายใต้ชื่อโครงการนำร่องทดลองติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าชนิดเติมเงิน ณ ตลาดบางกะปิ ซอยลาดพร้าว 127 ความร่วมมืออันดีครั้งนี้เป็นการยกระดับคุณภาพด้านระบบสาธารณูปโภค รวมถึงเป็นการพัฒนามาตรฐานของตลาดในกำกับดูแลของ กทม.ให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยสู่ความเป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ก้าวสู่ความเป็นมหานครที่มีการพัฒนาในระดับสากลและเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน
