BKK NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

22 กันยายน 2564 : 17:40 น.

กทม.ร่วมกับ We! Park และ สสส.เปิดตัวสวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์เพิ่มพื้นที่สีเขียวขนาดเล็กจากพื้นที่รกร้างเป็นพื้นที่สาธารณะเพื่อสุขภาวะแห่งใหม่กลางกรุงสร้างสุขภาพให้คนเมือง เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่บริเวณสวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่บริเวณสวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในกิจกรรมส่งมอบสวนสาธารณะ “วัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์” ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียวขนาดเล็กในเมือง We! Park ว่า กทม. โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ we! park สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาพื้นที่ว่างในเมืองให้เป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียว ตามนโยบาย Green Bangkok 2030 โดยมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้อย่างน้อย 10 ตารางเมตร/คน ภายในปี 2573 ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีพื้นที่สีเขียว 7 ตารางเมตร/คน โดยเห็นโอกาสจากพื้นที่ว่างภายในเมืองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียว เช่น พื้นที่ว่างรกร้าง พื้นที่ใต้ทางด่วน พื้นที่เหลือจากการพัฒนา ฯลฯ ประกอบกับการกำหนดอัตราภาษีที่ดินใหม่ที่เรียกเก็บภาษีพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในอัตราถึงร้อยละ 0.3 ทุก 3 ปี ซึ่งเริ่มบังคับใช้ในปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้สนใจบริจาคพื้นที่เพื่อสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม เช่นกรณีของที่ดินของสวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์ ที่มีผู้บริจาคเพื่อสร้างเป็นสวนสาธารณะ

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ กล่าวว่า สสส. มุ่งสร้างเสริมให้คนไทยมีสุขภาวะ การพัฒนาให้เกิดพื้นที่สุขภาวะที่ประชาชนเข้าถึงได้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้คนมีสุขภาพดีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของชุมชน เป็นพื้นที่สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่ม สามารถสร้างความรู้สึกร่วม และความผูกพันของชุมชน เล็งเห็นปัญหาการขาดแคลนพื้นที่สาธารณะสีเขียวในเขตเมือง ที่ส่งผลต่อสุขภาวะทางกายใจ และสภาพแวดล้อมของเมือง จึงได้สนับสนุนโครงการ We! Park ที่เกิดจากการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเมืองและพื้นที่สาธารณะ ประกอบด้วย สถาปนิก ภูมิสถาปนิก สหวิชาชีพและผู้ที่สนใจในการพัฒนาเมือง เพื่อพัฒนาพื้นที่ว่างในเมืองให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียวที่มีคุณภาพและยั่งยืน ผ่านกระบวนการออกแบบอย่างมีส่วนร่วม เพื่อส่งเสริมทั้งคุณภาพชีวิตและเกิดระบบนิเวศเมืองที่เป็นมิตรกับทุกคนนายยศพล บุญสม ผู้จัดการโครงการ We! Park กล่าวว่า We! park เป็นแพลตฟอร์มด้านการพัฒนาพื้นที่สาธารณะสีเขียว มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพื้นที่สาธารณะ

สำหรับ “สวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์” เป็นการใช้พื้นที่ว่างซอยใกล้วัดหัวลำโพงเป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ว่างในเขตชุมชนที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองตั้งอยู่ในย่านที่มีความเจริญและมีความหนาแน่นสูง มีวัด โรงเรียน อาคารสำนักงาน อาคารชุดพักอาศัย แต่ขาดพื้นที่สีเขียว โดยพื้นที่ “สวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์” มีขนาด 1,048 ตารางเมตร (0.7 ไร่) จึงริเริ่มและพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ พัฒนาพื้นที่สาธารณะสีเขียวขนาดเล็ก (Pocket Park) ที่มีขนาดพื้นที่ระหว่าง 80 – 3,200 ตารางเมตร (ไม่เกิน 2 ไร่) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะสีเขียวในระยะ 400 เมตร หรือในระยะเวลา 5 นาทีได้อย่างทั่วถึง ตามนโยบายเกณฑ์พื้นที่สาธารณะเขียวแบบใหม่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การอนามัยโลก (WHO)

“แนวคิดในการออกแบบ “สวนวัดหัวลำโพงรุกขนิเวศน์” คือ “สวนข้างบ้าน” โดยแบ่งพื้นที่รองรับการใช้งานที่หลากหลาย มีเส้นทางวิ่งล้อมรอบ มีการใช้พืชพรรณพื้นบ้านตกแต่ง เป็นต้น เราพัฒนาพื้นที่โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในทุกระดับและขั้นตอน มีการรับฟัง ความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและออกแบบพื้นที่ร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ทิ้งร้าง ให้กลายมาเป็นพื้นที่สาธารณะสีเขียวเพื่อผู้คนอย่างแท้จริง ที่นี่จะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ขนาดเล็ก ไปจนถึงการเป็นพื้นที่รวมตัวทางสังคมของคนในพื้นที่ มีการบริหารจัดการดูแลพื้นที่ในระยะยาวโดยชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างคนในชุมชนที่เข้ามาใช้พื้นที่ร่วมกัน” นายยศพล กล่าว

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ