.

นกพิราบ กำลังเป็นปัญหาในกรุงเทพฯ อีกครั้ง จากการที่มีคนให้อาหารทั้งในที่สาธารณะและที่ส่วนบุคคล ซึ่งเราจะหยุดปัญหานี้ได้ ต้องร่วมมือกันครับ

จริงๆ แล้วนกพิราบหากินได้เองตามธรรมชาติครับ แต่เราทำให้นกเสียนิสัย ด้วยการให้อาหารนกเป็นประจำ พอนกรู้ว่าตรงไหนมีแหล่งอาหาร ก็จะมากันเรื่อยๆ พร้อมทำรังอยู่ในละแวกนั้นเลย แต่รู้มั้ยครับว่า นกพิราบเป็นพาหะนำโรคร้าย โดยเฉพาะขี้นก ที่อาจก่อให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ เยื่อสมองอักเสบ โรคระบบทางเดินหายใจ และไข้หวัดนก อันตรายมากครับ

ปัจจุบันมีการร้องเรียนปัญหานกพิราบเข้ามามากใน 7 เขต ได้แก่ เขตธนบุรี บางกอกน้อย พระนคร ราชเทวี สาทร ห้วยขวาง และหลักสี่ แต่ผมก็ให้ไปสำรวจทั้ง 50 เขต ว่าจุดไหนตรงไหนมีนกพิราบจำนวนมาก ทั้งในเขตชุมชน โรงเรียน วัด สวนสาธารณะ ท่าเรือ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำและทำความเข้าใจกับประชาชนถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ กทม.ยังได้หารือกับกรมปศุสัตว์ ที่จะหาวิธีป้องกันและนำนกคืนสู่ธรรมชาติอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กทม.ขอความร่วมมือประชาชน นักท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยว ห้ามให้อาหารนกเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาด้านความสะอาด แล้วยังส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วย ที่สำคัญ ถ้าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นยังมีความผิดตามกฎหมายด้วยครับ

ตามกฎหมายแล้ว ผู้ที่ให้อาหารนกจนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 โทษปรับสูงสุด 2,000 บาท

ส่วนผู้ที่จำหน่ายอาหารนก ก็มีโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 ในการแบ่งบรรจุอาหารสัตว์เพื่อการขาย และไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายอาหารสัตว์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย

กทม.ไม่อยากใช้บทลงโทษขั้นสูงสุดนะครับ เอาเป็นว่า เรามาร่วมมือกันป้องกันปัญหากันดีกว่า ไม่ยากเลยครับ แค่เราหยุดให้อาหารนกพิราบ รวมถึงนกอื่นๆ ด้วย ให้นกได้หากินเองตามธรรมชาติ ไม่ให้มีการมาชุมนุมจำนวนมาก เพื่อความสะอาด ป้องกันการเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค การแพร่ระบาดของโรคจากนกสู่คน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนครับ