นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมครม.สัญจรภาคอีสาน ทุ่ม7,000ล้าน พัฒนาอีสานตอนบน
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ซึ่งมี 5 จังหวัด คือ อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู เลย และ บึงกาฬ (กลุ่มสบายดี) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครม.สัญจรที่ จ.อุดรธานี ได้เห็นชอบข้อเสนอแผนการพัฒนากลุ่มสบายดีทั้งหมด 5 ด้าน คือ ด้านโลจิสติกส์ ด้านแหล่งน้ำ ด้านยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต ด้านท่องเที่ยว และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งแต่ละโครงการนายกฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องรับไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้นำเสนอโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา โครงข่ายคมนาคมขนส่งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 รวม 18 โครงการ วงเงินกว่า 5,700 ล้านบาท ให้ที่ประชุมพิจารณา อาทิ โครงการก่อสร้างถนนสายรอบเมืองอุดรธานีฝั่งตะวันออก จาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งค่อนข้างหนาแน่นประมาณ 2.2 หมื่นคัน/วัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โครงการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างจังหวัด (อุดรธานี-เลย-หนองบัวลำภู) โดยขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้า
สำหรับ ข้อเสนอแต่ละด้านมีโครงการสำคัญที่ได้รับการเห็นชอบ เช่น การลงทุนระบบขนส่งแบบบูรณาการ การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยง จ.อุดรธานี-บึงกาฬ ระยะทาง 139 กิโลเมตร การก่อสร้างสะพานคู่ขนานสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว ด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย และการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.เลย โดยให้ช่วยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อลงแม่น้ำโขงห้วยบางบาด จ.บึงกาฬ โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจร โครงการพัฒนาและยกระดับตลาดผ้าบ้านนาข่า สู่การเป็นสมาร์ทมาร์เก็ต รองรับการเป็นศูนย์กลางตลาดผ้าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โครงการการก่อสร้างแลนมาร์คประติมากรรมพญานาคราชคู่มิตรภาพแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ณ วัดอาฮงศิลาวาส ต.ไคสี อ.เมือง จ.บึงกาฬ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการประชาชน เป็นต้น
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าอุดรธานี กล่าวว่า การประชุมร่วมกับ ครม.ในครั้งนี้ข้อเสนอเอกชนทั้ง 5 ด้าน รวมเป็นเงินงบประมาณที่จะลงสู่ท้องถิ่นกว่า 7,000 ล้านบาท ต่อเนื่องจากที่ทางกลุ่มจังหวัดได้เข้าร่วมประชุมกับที่ประชุม ครม.สัญจรที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งขณะนั้นได้รับอนุมัติงบประมาณทุกด้านรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่ง
ทั้งนี้ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 จำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวให้พร้อมเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปจากกรณีที่จีนได้ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิงลงมาสิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้รายงานว่าทางไทยจะพัฒนารถไฟทางคู่จากกรุงเทพฯ มาถึงหนองคายซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงเวลาเดียวกัน
“รถไฟความเร็วสูงจากประเทศจีนจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนตอนใต้เข้ามาในพื้นที่อีสานตอนบนมากขึ้น เวลานี้มีนักท่องเที่ยวจีนมาที่ลาวปีละประมาณ 5 แสนคน แต่ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงแล้วจะมีมากขึ้นเป็นอีกหลายล้านคน และจะต้องข้ามมาทางฝั่งไทย ที่ต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานทั้งเรื่องของที่พัก อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวให้พร้อม ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีมาตรการฟรีวีซ่า ดับเบิ้ลวีซ่า และรีเอนทรีวีซ่า” นายสวาท กล่าว
