THAI NEWS

01 สิงหาคม 2566 : 08:00 น.

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ครบรอบ 65 ปี

ในวันที่ 1 สิงหาคม 2566 กฟน. ได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “65th MEA SPARK the Sustainable Future” จุดประกายอนาคตที่ยั่งยืน โดยเปิดให้ผู้ร่วมงานสามารถร่วมบริจาคเงินให้กับ 2 มูลนิธิ คือ สหทัยมูลนิธิ เพื่อป้องกันการเป็นเด็กกำพร้าและส่งเสริมให้เด็กเติบโตในครอบครัวอย่างมีคุณภาพ และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาเด็กรอบด้าน พร้อมผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาเด็กอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการเสนอผลการดำเนินงานจากการขับเคลื่อนองค์กรโดยยึดหลัก Triple Go for Goal ใน 3 ด้าน คือ Go Smart, Go Digital และ Go Green ภายใต้วิสัยทัศน์ Energy for City Life, Energize Smart Living ในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร

ผู้ว่าการ กฟน. กล่าวว่า ในด้าน Go Smart คือ การพัฒนาระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยเสริมความมั่นคงและความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า โดย กฟน. ได้ดำเนินโครงการด้าน Go

Smart เช่น โครงการ Smart Metro Grid ที่ปัจจุบัน กฟน. ได้ติดตั้ง Smart Meter รวมจำนวน 33,265 ชุด ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ ช่วยในด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า วิเคราะห์จุดเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้อง โดยภายในปี 2570 จะติดตั้งรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 441,400 ชุด รวมถึงยังมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับหม้อแปลงจำหน่าย ภายใต้โครงการ Transformer Load Monitoring (TLM) ช่วยในการวางแผนขยายหรือปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า โดยภายในปี 2570 จะติดตั้งแล้วเสร็จครบทั้งพื้นที่ กฟน. ที่มีจำนวน 62,400 ชุด

นอกจากนี้ กฟน. ยังดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โดยเฉพาะในเส้นทางการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ซึ่งจะมีแผนงานที่สำเร็จเพิ่มมากขึ้นในปี 2566 จะมีเส้นทางที่แล้วเสร็จเพิ่มเติม 29 กิโลเมตร รวมเป็น 91 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน กฟน. ยังมีแผนที่จะดำเนินโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินให้แล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น236.1 กิโลเมตร ภายในปี 2570 และมีแผนที่จะดำเนินการในอนาคตอีก 1,140.8 กิโลเมตร รวมทั้งสิ้นเป็น 1,454.3 กิโลเมตร

ด้าน Go Digital นั้น กฟน. ได้ยกระดับไปสู่การเป็น Fully Digital Service มีการพัฒนาการให้บริการผ่านออนไลน์ต่างๆ เช่น ระบบ Tracking บริการทางธุรกรรมออนไลน์ของ กฟน. ผ่าน MEASY มีการพัฒนาบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (eLG on Blockchain) อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบ EV Data Roaming ทำให้ MEA

EV Application สามารถแชร์ข้อมูลกับผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างๆ ครอบคลุมทั้งในฟังก์ชันการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าและการจ่ายค่าบริการ

ด้าน Go Green นั้น กฟน. ได้สนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) มีการออกแบบระบบ Smart Charging เพื่อลดปัญหาการเกิด Overload รวมถึงล่าสุด ได้เปิดตัว MEA EV Super Charge เครื่องอัดประจุไฟฟ้า 120 kW ที่พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Solar PV และ Battery Storage ณ บริเวณอาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย รองรับผู้ใช้บริการใจกลางเมืองมหานคร

ขณะเดียวกัน กฟน. ยังดำเนินโครงการนำเสาไฟฟ้าที่ถูกรื้อถอนจากโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินมาทำแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง MEA’s Model ในพื้นที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าและชายฝั่งย่านบางขุนเทียน พร้อมสนับสนุนการดำเนินการปลูกป่าชายเลนและดูแลบำรุงรักษามาอย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำโครงการโซลาร์ภาคประชาชนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย โครงการยกระดับสถาบันการศึกษาให้เป็นต้นแบบด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ Energy Mind Award Season 2 รวมถึงมีการดำเนินโครงการ MEA Energy Awards เพื่อส่งเสริมให้อาคารมีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ได้มาตรฐาน นับเป็นการร่วมผลักดันให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตามนโยบายของรัฐบาล

ข่าวเด่น

ข่าวที่น่าสนใจ