ปทุมธานีต้อนรับขบวนยกพลขึ้นบกอัญเชิญพระบรมรูปปั้นพระเจ้าตากสินฯอย่างยิ่งใหญ่ ภายในงานมีการแสดง แสง สีเสียง ย้อนรอยประวัติศาสตร์ อย่างยิ่งใหญ่

เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ริมเขื่อนโรงเรียนวัดป่างิ้ว ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีพิธีรับกองเรือยกพลขึ้นบก พิธีเจริญพระพุทธมนต์ฯ พิธีบวงสรวงฯ และพิธีฉลองการยกพลขึ้นบก โดยผู้แทนกองทัพเรือ อัญเชิญพระบรมรูปปั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขบวนเรือยกพลขึ้นบกเข้าสู่เขตแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี

จากนั้น เข้าเทียบท่าเรือโรงเรียนวัดป่างิ้ว ต.บ้านงิ้ว ซึ่งมี ดร.พินิจ บุญเลิศ ผวจ.ปทุมธานี ต้อนรับขบวนกองเรือและอัญเชิญพระบรมรูปปั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ไปยังโต๊ะหมู่บูชา ที่แท่นสำหรับตั้งองค์พระบรมรูปปั้น ในการประดิษฐานไว้ใน จ.ปทุมธานี ให้ประชาชนได้ร่วมสักการะเป็นเวลา 2 วัน คือวันที่ 5-6 พ.ย. 2561 ก่อนอัญเชิญไปต่อในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ ภายในงานมีการแสดง แสง สีเสียง ย้อนรอยประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ,การแสดงโขน.การสาธิตและแข่งขันมวยไทยย้อนยุค, การแสดงนาฏศิลป์, การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งย้อนยุค ,ชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช,ชมตลาดน้ำย้อนยุค เดินชิมอาหารไทย ขนมไทย พร้อมทั้งเชิญชวนให้ผู้ที่เข้ามาร่วมงานแต่งกายชุดไทยย้อนยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย/กรุงธนบุรี (หน้างานมีบริการเช่าชุด) พร้อมเข้าถ่ายรูปบรรยากาศภายในงานที่ถูกจัดตกแต่งแบบย้อนยุค มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการฟรี

นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าว่า ระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย. ที่ริมเขื่อนโรงเรียนวัดป่างิ้ว อ.สามโคกขอเชิญชวนคนไทย ร่วมตามรอย 250 ปี กองเรือยกพลขึ้นบก พระเจ้าตากสิน กู้เอกราช มีการจำลองเส้นทางยาตราทัพ แวะฉลองปักเสาแห่งชัยชนะที่วัดนางหยาดทุ่งพระยาเมือง (โรงเรียนวัดป่างิ้วในปัจจุบัน)

สำหรับ ในงานครั้งนี้มีการแสดงโชว์ ไฮไลท์แสงสีเสียง และขบวนเรือไฟกว่า30ลำ มีการแสดงโขนสดกว่า 70 ชีวิต การแสดงพื้นบ้าน อาทิ การตีไก่ชน การกัดปลากัด การจำลองการแสดงการละเล่นโบราณต่างๆ อย่างมากมาย อย่างอลังการ ณ ริมเขื่อนโรงเรียนวัดป่างิ้ว อ.สามโคก และร่วมสักการะหลวงพ่อวัดนางหยาดอันศักดิ์สิทธิ์ และขอพรเสาแห่งชัยชนะ

จากข้อมูลที่ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พุทธศักราช 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังจากเข้าตีกรุงศรอยุธยาคืนจากพม่าได้แล้ว ได้ยกทัพเรือผ่านมาถึงวัดนางหยาด(วัดร้าง) เวลาบ่ายคล้อยเย็นมากแล้ว จึงนำไพร่พลแวะพักหุงหาอาหารและฉลองชัยชนะที่ วัดนางหยาดทุ่งพระยาเมืองแห่งนี้ เมื่อรับประทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ลงเรือต่อไปถึงธนบุรี รุ่งสางพอดี วัดนางหยาดทุ่งพระยาเมือง

นอกจากนั้น สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี หรือก่อนนั้นก็อาจเป็นได้ ปัจจุบันคงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ มีพระพุทธรูปศิลาทราย ศิลปะอู่ทอง ปางมารวิชัย ทำด้วยหินทรายแกะสลัก ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 56 นิ้ว สูง 72 นิ้ว สันนิษฐานว่าคงจะเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถของวัด และพระพุทธรูปประกอบพระประธาน ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 33 นิ้ว สูง 47 นิ้ว อีกสี่องค์แต่เดิมประดิษฐานอยู่ด้านข้างทั้งสองข้างของพระประธานด้านละสององค์ หันหน้าออกด้านข้างทั้งสี่องค์ มีศาลาเสาไม้เนื้อแข็งมุงหลังคาด้วยสังกะสีคลุมไว้ป้องกันแดดฝน

บริเวณพื้นพระอุโบสถประกอบด้วยอิฐดินเผาโบราณ ขนาดกว้างประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ยาว 11 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และพบอิฐดินเผาโบราณขนาดใหญ่ มีรูเล็กๆหลายรูทะลุจากด้านบนแผ่นอิฐถึงด้านล่าง กว้างประมาณ 8 นิ้ว ยาว 14 นิ้ว หนา 5 นิ้วครึ่ง ในบริเวณเขตพื้นที่ของวัดนางหยาด และที่แห่งนี้ยังพบเสาไม้ปักไว้ข้างหน้าสันนิษฐานว่าอาจเป็นเสาไม้ที่ปักไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รบชนะกู้อิสรภาพจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2ได้สำเร็จ