ประจวบคีรีขันธ์-วิศวกรโยธาเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่พังถล่มในจ.ประจวบฯ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง จนเกิดเรื่องเศร้าทำให้เจ้าของอาคารดับคาซาก 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีอาคารขนาด 2 ชั้นบ้านเลขที่ 446/4 ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ฝั่งตรงข้าม สำนักงานขนส่งจ.ประจวบคีรีขันธ์ เกิดถล่มพังลงมาทั้งหลัง โดยมีคนติดภายในซากรวมทั้งหมด 5 ราย ทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน ซึ่งการกู้ภัยเพื่อค้นหาและช่วยเหลือใช้เวลานานรวมเกือบ 6 ชั่วโมง เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุด จึงสามารถช่วยเหลือออกมาได้ทั้งหมด แต่คุณพ่อเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยออกมาได้ 4 ราย คือ ด.ญ.ริญญรัตน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 14 ปี น.ส. ธันย์นิชา ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 29 ปี น.ส.ธัญญกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 31 ปีลูกเจ้าของอาคาร และ นางศิริกาญจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 52 ปี มารดา ส่วนายไชยโรจน์ ธัญเลิศพัฒนกิจ อายุ 59 ปี ผู้เป็นพ่อติดอยู่ใต้ซากอาคารนานจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตหลังจากช่วยออกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันนี้ทีมเจ้าหน้าที่วิศวกรโยธา สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจ.ประจวบฯเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารทั้งผนังแผ่นพื้นเสาคาน รวมถึงตรวจวัดขนาดเหล็กกเส้นตามจุดต่างๆ เพื่อนำไปเทียบเคียงกับแบบแปลนที่ขออนุญาตก่อสร้าง อีกทั้งอาคารหลังนี้ปลูกติดกับถนนเพชรเกษมการสั่นสะเทือนของรถยนต์ที่วิ่งผ่านจำนวนมาก อาจจะกระทบกับความมั่นคงแข็งแรงได้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อมูลโดยภาพรวมทั้งหมด เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับ อาคารที่เกิดเหตุปลูกอาศัยมาแล้ว 13 ปี แต่มีปัญหาฟ้องร้องในเรื่องการก่อสร้างตั้งแต่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งน้องชายที่เป็นวิศวกรโยธามาเห็นโครงสร้างก็บอกว่า เหล็กเส้นมีขนาดเล็ก เพราะผู้รับเหมาใช้เหล็กขนาดต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่เหมือนกับแบบที่ระบุไว้ ครอบครัวตั้งใจว่า อีกไม่เกิน 3 ปี จะสร้างบ้านใหม่ ทุบอาคารทิ้งไป แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย บ้านถล่มลงมาเสียก่อน