5 องค์กรเอกชนภาคธุรกิจโคราชออกแถลงการณ์วอนนักการเมืองกลับบ้านช่วยเหลือผลกระทบด้านเศรษฐกิจและประชาชนช่วงวิกฤติโควิด จี้จัดหาวัคซีนฉีดให้ครอบคลุมมากกว่า 70% พร้อมหาแหล่งเงินกู้

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม องค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมา เครือข่าย Biz Club นครราชสีมา และชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดนครราชสีมาได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในจังหวัดนครราชสีมาเรียกร้องให้นักการเมืองชาวโคราช เร่งกลับมาแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวโคราช

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และเป็นตัวแทนองค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดร้ายแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้นในประเทศไทย และจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้เป็นจังหวัดพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ เป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่มีมาตรการควบคุมเข้มงวดสูงสุด ทำให้เกิดวิกฤติด้านเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการหลายธุรกิจ และประชาชนทุกสาขาอาชีพประสบปัญหาอย่างหนัก

ทั้งนี้ องค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันนครราชสีมา จึงได้มีมติเห็นชอบร่วมกันขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชาวโคราชทุกคนออกมาช่วยเหลือประชาชนชาวโคราช เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในขณะนี้ได้ลุกลาม และแพร่กระจายไปทุกพื้นที่ทั้งจังหวัดนครราชสีมา และทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ทำให้จังหวัดนครราชสีมาถูกประกาศให้เป็นจังหวัดสีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และการใช้ชีวิตของประชาชนทั้งจังหวัด โดยองค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันนครราชสีมา ขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นคนโคราชทุกคน ออกมาช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1.ขอให้เร่งจัดหาวัคซีนทั้งวัคซีนของทางภาครัฐ และวัคซีนทางเลือก นำมาฉีดให้กับประชาชนในจังหวัดให้ครอบคลุมได้มากกว่า 70% โดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิต และเศรษฐกิจของโคราช กลับมาเหมือนเดิมโดยเร็ว

2.ขอให้ใช้ศักยภาพในทุกทางจัดหาชุดตรวจโควิด Antigen Test Kits (ATK) เพื่อทำการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปให้ทั่วถึงรวดเร็วที่สุด

3.ช่วยหาแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ Micro SME และ SME โดยเน้นไปที่สถาบันการเงินของรัฐ เพื่อช่วยเหลือเงินหมุนเวียนในช่วงโควิด

4.ขอขยายระยะเวลาการลงทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ออกไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน และเพิ่มวงเงินเยียวยา เพื่อให้กลุ่มอาชีพอิสระที่มีอายุตั้งแต่ 15-65 ปี ได้เข้าถึงเงินเยียวยาจากประกันสังคม

นอกจากนี้ องค์กรภาคเอกชน 5 สถาบันนครราชสีมา ยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ช่วยดำเนินการเร่งผลักดันข้อเรียกร้องทั้งหมดให้ประสบผลสำเร็จโดยเร็วอีกทางหนึ่งด้วย