THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

06 มิถุนายน 2565 : 15:37 น.

"อนุพงษ์"ประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเร่งขับเคลื่อนงานสนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำให้ใช้กลไกมหาดไทยบริหารงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2565 โดยมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารระดับสูง ที่ปรึกษาระดับกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำหน้าที่ในฐานะปกครองบังคับบัญชาข้าราชการในจังหวัดและในฐานะผู้กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการทุกภาคส่วนในระดับพื้นที่ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งถือเป็น “ความท้าทายของพ่อเมือง” ที่ต้องรับรู้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่จังหวัดทุกเรื่อง เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม อุบัติเหตุ แรงงาน หรือแม้แต่เรื่องลัทธิประหลาด โดยใช้อำนาจหน้าที่บังคับบัญชากลไกการปกครองท้องที่ทั้งนายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา เป็นฟันเฟืองการปกครองที่มีประสิทธิภาพในระดับพื้นที่ โดยต้องกำชับให้นายอำเภอ และปลัดอำเภอ ทำการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านทุกคนให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2559 ให้เป็นไปตามผลการทำงานจริง และต้องลงไปกำกับติดตามและเน้นย้ำแนวนโยบายในการทำงานตามนโยบายรัฐบาลในทุกเรื่องอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสภาท้องถิ่นในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นและจัดบริการสาธารณะให้กับประชาชนอย่างเต็มศักยภาพ โดยไม่เป็นการแทรกแซงความเป็นอิสระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ได้มอบแนวทางการทำงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ 1.การจัดการสาธารณภัย โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้กำหนด ทั้งการติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือนประชาชน การเตรียมการเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และหากเกิดสถานการณ์ภัยทุกประเภท ขอให้น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว บูรณาการทุกภาคส่วนเร่งทำให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตโดยปกติสุขโดยเร็ว ทั้งการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน การแจกถุงยังชีพตามวงรอบ การจัดการที่อยู่อาศัยที่พักพิงชั่วคราว และการซ่อม สร้าง ที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชน และในช่วงฤดูฝนนี้ ขอให้เตรียมมาตรการรองรับน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และคลื่นลมแรง ให้มีความพร้อมด้วย 2.การดำเนินงานศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนพุ่งเป้าลงพื้นที่สำรวจข้อมูลความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งจากระบบ TPMAP และ THAIQM เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่ได้ซักซ้อมไว้ โดยจะได้มีการหารือผ่านการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ ในวันที่ 13 มิถุนายน 2565

3.การบริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณากำหนดการผ่อนคลายมาตรการ โดย 2 หลักการสำคัญ คือ 1 ไม่ทำให้เกิดการระบาดจนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้ และ 2 ทำให้คนทำมาหากิน ใช้ชีวิตปกติสุขเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ 4.การสร้างการรับรู้สู่ชุมชน โดยต้องให้ความสำคัญในการสร้างการรับรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และพิจารณานำแนวทางการดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีมาประยุกต์ใช้ ด้วยการพูดซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ใช้ภาษาที่กระชับ เข้าใจง่าย ไม่ยืดยาว เยิ้นเย้อ ซึ่งอาจจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเอง หรือบุคคลในพื้นที่ที่เป็นที่รู้จักของประชาชน หรือประชาสัมพันธ์จังหวัด บันทึกเสียงคำพูดข้อมูลข่าวสารจากส่วนกลาง และข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ เผยแพร่ผ่านหอกระจายข่าวและเสียงตามสายหมู่บ้าน/ชุมชน ในทุกวัน เพื่อให้เกิดการสร้างความรับรู้ความเข้าใจและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนเกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ 5.การบริการประชาชนตาม พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 โดยต้องเน้นย้ำทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และระยะเวลาการให้บริการประชาชนตามคู่มือสำหรับประชาชน และ 6.การบริหารจัดการขยะ ด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ตามหลัก 3 ช (3Rs) คือ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ตามแผนปฏิบัติการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “จังหวัดสะอาด” ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง 

ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณีรมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับนายอำเภอนำแนวนโยบายและข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงในที่ประชุมกรมการจังหวัด กำหนดเป็นวาระการประชุมประจำเดือนของอำเภอ และติดตามการดำเนินงานอย่างเอาจริงเอาจัง ในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน และขอให้สำรวจสิ่งก่อสร้างที่ได้ดำเนินการแล้วแต่ยังไม่เปิดใช้งานได้ โดยหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน

ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในด้านการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน พ.ศ. 2559 มอบหมายให้ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน เป็นประธานคณะทำงานกำหนดกรอบแนวทางในการกำกับติดตามการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ให้เป็นไปตามระเบียบฯ สำหรับในด้านการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหารือร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาผ่อนปรนมาตรการให้เป็นไปตามนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และพิจารณามาตรการลักษณะแนวทางสอดคล้องกับจังหวัดใกล้เคียงเพื่อส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ