เปิดตัวอีเอ็ม-ศูนย์ติดตามฯ ผู้ถูกคุมประพฤติ 24 ชม.นำมาใช้กับผู้ถูกคุมประพฤติ นำร่อง 4,000 เครื่องเริ่มม.ค.ปีหน้า ใช้ติดตามตัวได้ทั่วโลก-ส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันทีหากพบมีการทำลาย
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรอ งนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดศูนย์ควบคุมติดตามตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์( Electronic Monitoring ) หรือ EM ของกรมคุมประพฤติ โดยมี นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วม
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า การนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ติดตามตัว หรือ EM มาใช้กับผู้กระทำผิดถือเป็นมาตรการทางเลือกแทนการลงโทษจำคุก เพื่อช่วยลดโอกาสการเรียนรู้การกระทำผิดที่ร้ายแรงมากขึ้นในเรือนจำ และให้โอกาสผู้กระทำผิดได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวและสังคมได้ตามปกติ และยังสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอ งแต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ
ทั้งนี้ การใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ที่ถูกศาลสั่งคุมประพฤติผู้ที่ได้รับการพักโทษหรือผู้ที่ถูกคุมประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 และหลังจากนี้กระทรวงยุติธรรมได้มีนโยบายขยายการใช้ EM กับผู้กระทำผิดที่อยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนด้วย
ด้านนายประสาร กล่าวว่า กรมคุมประพฤติจะนำเครื่องตืดตามตัว EM มาใช้กับผู้ที่ถูกคุมประพฤติโดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.62 จำนวน 4,000 ชุด เป็นการเช่าอุปกรณ์จากบริษัทเอกชนฯ เป็นเวลา 21 เดือนคือตั้งแต่ ม.ค.62- ก.ย.63 โดยจะมีศูนย์ควบคุมการติดตามตัวด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ที่กรมคุมประพฤติซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการติดตามเฝ้าระวัง และตรวจสอบผู้กระทำผิดที่สวมอุปกรณ์อีเอ็มโดยแต่ละสำนักงานจังหวัดจะดูข้อมูลได้เฉพาะจังหวัดของตนเองเท่านั้นไม่สามารถดูข้ามจังหวัดได้
อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงเงื่อนไขการใช้ EM กับผู้ถูกคุมประพฤติว่า ใช้ได้ทั้งในผู้ถูกจำกัดบริเวณห้ามเที่ยวกลางคืน มีที่พักอาศัยในพื้นที่มีปัญหายาเสพติด มีความผิดฐานลักทรัพย์ที่ประกอบด้วยเหตุฉกรรจ์ ผู้ถูกคุมประพฤติที่จำกัดความเร็วความผิดฐานขับรถโดยประมาท ความผิดตาม พร.บ.จราจรใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด กรณีเขตห้ามเข้าความผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกายความผิดเกี่ยวกับเพศ ซึ่งผู้เสียหายยังเกรงกลัวจำเลยจำเลย อยู่ในชุมชนเดียวกับผู้เสียหาย และผู้ที่ถูกห้ามออกนอกเส้นทางที่กำหนด โดยที่ผ่านมากรมคุมประพฤติได้ทดลองใช้กำลังอีเอ็มกับผู้ถูกคุมประพฤติแล้วจำนวน 246 ราย
สำหรับ เครื่องติดตามตัว EM ในปัจจุบันได้ถูกออกแบบให้เป็นลักษณะคล้ายนาฬิกาสมาร์ทวอชตัวเรือนบางเบา มีการติดชิปเพื่อเชื่อมกับศูนย์ควบคุมกลางมีความไวในการตรวจจับ และมีระบบแจ้งเตือนหากพบว่ามีความพยามยามในการตัดหรือทำลาย โดยระบบจะสั่นเพื่อเตือนและส่งสัญญาณมาที่ศูนย์กลางฯโดยมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯคอยตรวจสอบสัญญาณแจ้งเตือนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสามารถประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันทีโดยข้อมืออีเอ็มจะใช้ได้ใช้ดี 100 % แม้ผู้ถูกคุมประพฤติจะอยู่ในรถยนต์ประเภทต่างๆ และสามารถตามสัญญาณไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศระบบทำงานได้ทั่วโลกและไม่สามารปิดระบบได้อยู่ใต้น้ำลึกได้ 2 เมตรโดยใช้เครือข่ายจาก 3 สัญญาณโทรศัพท์คือ ทรู เอไอเอส และดีเทค